โพสต์ทูเดย์-งานวิจัยพระปกเกล้าชี้ให้เอกชนร่วมทุนเครื่องมือแพทย์โรงพยาบาลรัฐช่วยให้ค่าบริการต่ำกว่ารัฐจัดซื้อเอง ลดค่าบริการ ช่วยแก้ปัญหาการส่งต่อคนไข้
งานวิจัยของนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลสำหรับผู้บริหารทางการแพทย์ ภายใต้ความร่วมมือกับแพทยสภา ซึ่งทำการศึกษาในหัวข้อ "การเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชนสำหรับบริการสาธารณสุขของประเทศไทย กรณีศึกษาการเพิ่มบริการทางการแพทย์สมัยใหม่"พบว่า หากเปิดทางให้เอกชนร่วมลงทุนในโรงพยาบาลรัฐบาลด้วยเครื่องมือสมัยใหม่ทำให้ต้นทุนการบริการต่ำกว่าที่โรงพยาบาลของรัฐจัดซื้อเครื่องมือเพื่อให้บริการเอง เนื่องจากการจัดการโดยรัฐมักไม่รวมต้นทุนการดำเนินการ การบำรุงรักษาเครื่องมือและการอ่านผลด้วย
ทั้งนี้ เครื่องมือสมัยใหม่เช่น เครื่องเอ็มอาร์ไอ หรือเครื่องตรวจร่างกายโดยการสร้างภาพเหมือนจริงด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเครื่องซีทีสแกนซึ่งต้องใช้บุคลากรที่ชำนาญและมีต้นทุนในการบำรุง
งานวิจัยยังพบอีกว่า การร่วมทุนจะทำให้ประชาชนมีโอกาสใช้เครื่องมือแพทย์ทันสมัย และผู้รับการรักษาไม่จำเป็นจะต้องถูกส่งตัวให้ใช้บริการของเอกชนและการร่วมทุนผ่านสัญญา จะทำให้ภาครัฐสามารถกำหนดค่าบริการที่เหมาะสมจากเอกชนผู้ร่วมลงทุนด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะว่า1.ภาครัฐควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในด้านการจัดทำบริการสาธารณสุขเพื่อส่งเสริมให้เอกชนมีส่วนร่วม 2.การจัดทำหรือขยายบริการสาธารณสุขของภาครัฐต้องมีการคำนวณต้นทุนเพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างกรณีที่ภาครัฐดำเนินการเอง และกรณีที่ให้เอกชนร่วมลงทุนโดยในกรณีอุปกรณ์ทางการแพทย์จะต้องคำนวณต้นทุนตลอดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงต้นทุนการดูแลรักษา
3.ภาครัฐต้องเร่งกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นแม่แบบในการให้เอกชนร่วมลงทุน โดยเฉพาะในการให้บริการทางการแพทย์ โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องเน้นหลักความคุ้มค่า การแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม และธรรมาภิบาลทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ ทีมศึกษาวิจัย ประกอบด้วย นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นพ.พจน์ ธีรคุปต์ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คลัง นายมานิต นิธิประทีป รองอธิบดีกรมสรรพากรนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายชาญณรงค์ เตชะอังกูร หัวหน้าฝ่ายบริหารลูกค้ารายใหญ่ บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย)นายทรงภูมิ สรรไพโรจน์ หัวหน้าธุรกิจยาบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย)
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 19 ตุลาคม 2556
- 17 views