ประชาชาติธุรกิจ - โบรกเกอร์ส่องกำไรกลุ่มโรงพยาบาล 5 แห่ง คาดปีนี้กำไรลดลง 14% จากปีก่อน เหตุไม่มีกำไรพิเศษ และหลายบริษัทแบกต้นทุนเปิดสาขาใหม่ ฉุดกำไรลด 2 ปี ส่วนไตรมาส 3 ช่วง ไฮซีซั่น ลูกค้าใช้บริการโรงพยาบาล เยอะขึ้น จากฤดูฝนเป็นไข้หวัด พยุงกำไรโต 10% ผู้บริหารวิภาวดีรับลงทุนสร้าง 2 ร.พ.ใหม่ ใช้เวลาคืนทุน 7 ปี
 
นายถกล บรรจงรักษ์ นักวิเคราะห์ หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากการ วิเคราะห์ผลประกอบการของหุ้นกลุ่ม โรงพยาบาลหลัก ๆ ของกลุ่ม จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH), บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH), บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH), บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) และ บมจ. ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) ในช่วงที่ผ่านมา โดยคาดว่าปีนี้กำไรสุทธิรวมจะลดลงประมาณ 14% จากปีก่อนที่ทำได้ 12,472 ล้านบาท หลังจากปีนี้หลายบริษัทไม่มีการรับรู้รายได้ พิเศษเข้ามาเหมือนปีก่อน ประกอบกับ โรงพยาบาลมีการแห่ขยายสาขาจำนวนมาก ส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น กระทบต่อประสิทธิภาพการสร้างกำไรถดถอยอย่างน้อยประมาณ 1-2 ปี
 
ขณะที่ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตประมาณ 10% จากไตรมาสก่อนที่ทำได้ 2,141 ล้านบาท เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล เพราะในช่วงฤดูฝนโรคไข้หวัดจะทำให้มี ผู้ป่วยมาใช้บริการเป็นจำนวนมากที่สุดของปี
 
อย่างไรก็ตาม นายถกลกล่าวว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3 นี้อาจใกล้เคียงกับงวดเดียวกันปีก่อน เพราะหลายบริษัทมีการปรับปรุงพื้นที่บริการและขยายโรงพยาบาลใหม่หลายแห่ง ทำให้มีต้นทุนค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น เป็นตัวฉุดให้กำไรทั้งกลุ่มเติบโตไม่โดดเด่นมากนัก
 
ฝ่ายวิจัยกรุงศรีระบุว่า BH เป็น Top Pick ของกลุ่ม โดยคาดว่าจะมีกำไรเติบโตมากที่สุดในไตรมาส 3 นี้ เพราะบริษัทยังไม่มีการขยายสาขาใหม่ของโรงพยาบาล เพียงแต่ขยายพื้นที่รองรับผู้ป่วยเพิ่มในพื้นที่ปัจจุบัน ขณะที่โรงพยาบาลอื่น ๆ เน้นการขยายสาขาใหม่ ซึ่งต้องใช้ ระยะเวลาในการคุ้มทุนประมาณ 2-3 ปี ส่วนกำไรสุทธิของ BCH ในไตรมาส 3 คาดว่าจะลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังขาดทุนจากโรงพยาบาล World Medical Center ซึ่งเปิดใหม่ ทำให้ยังไม่มีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการมากนัก
 
นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่จำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะแล้วเสร็จประมาณ กลางปีหน้า และอีกแห่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง ปลายปี โดยโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งมีขนาดเตียงแห่งละ 100 เตียง ซึ่งคาดว่าประมาณ 3-5 ปีจะสามารถหยุดขาดทุนและสามารถกลับมาทำกำไรให้แก่บริษัทได้ ส่วนระยะเวลาการคืนทุนทั้งหมดคาดว่าต้องใช้เวลากว่า 7 ปี
 
"บริษัทได้ลงทุนปรับปรุงและก่อสร้าง โรงพยาบาลมากขึ้น ทำให้มีความพร้อมในการเปิด AEC (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) ในปี 2558 เราคาดว่าเมื่อเปิด AEC สัดส่วนผู้ป่วยชาวต่างชาติของบริษัทจะเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ 5% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด ส่วนการลงทุนเปิดโรงพยาบาลใหม่นั้น แม้ต้องแบกรับผลดำเนินงานที่ขาดทุนของโรงพยาบาลแห่งใหม่ แต่ในแง่ของการลงทุนระยะยาวก็ถือว่าคุ้มค่า" นายชัยสิทธิ์กล่าว
 
ส่วนช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้และกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตได้ประมาณ 10-20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,052 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 391 ล้านบาท หลังจากมีจำนวนผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลของบริษัทเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังผลประกอบการจะออกมาดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ
 
ด้านแหล่งข่าวผู้บริหารระดับสูง บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) คาดว่า ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทน่าจะปรับตัวดีที่สุดของปี เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่ายเข้ามารับการรักษาเป็นจำนวนมาก ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนอัตราการรองรับจำนวนผู้ป่วยได้ประมาณ 500 เตียง บริษัทจึงมั่นใจว่าทั้งรายได้และกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 1,026 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9.04 ล้านบาท หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัท ทำรายได้ประมาณ 560 ล้านบาท กำไรสุทธิ 35.67 ล้านบาท
 
ส่วนความคืบหน้าการขยายโรงพยาบาลใหม่นั้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าไปร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่งในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าจะได้ ข้อสรุปภายในกลางปีหน้า โดยบริษัทจะเข้าไปถือหุ้นใหญ่มากกว่า 50% และหากการร่วมลงทุนสำเร็จ บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ทันที ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ รายได้และกำไรของบริษัทในปี 2557 จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีนี้ ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัท มีโรงพยาบาลในเครือแล้วประมาณ 3 แห่ง ได้แก่ ในพื้นที่หนองแขม, อ้อมน้อย และจังหวัดสมุทรสาคร
 
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556