กทม.ผนึกเอกชนหยุดวัณโรคตั้งเป้าพ้น22ประเทศป่วยมากสุดในโลก

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก - กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยผนึกกำลังโรงพยาบาลภาครัฐ เอกชน และศูนย์บริการสาธารณสุข รวม 117 แห่ง ร่วมสร้างความเข้มแข็งในการควบคุมวัณโรคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผลักดันให้ประเทศไทยหลุดพ้นจาก 22 ประเทศ ที่มีอัตราการป่วยด้วยวัณโรคมากที่สุดในโลก

ดร.ผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร เป็นประธานเปิดงาน "กรุงเทพฯหยุดวัณโรค" เพื่อประสานความร่วมมือกับสถานพยาบาลภาครัฐและภาคเอกชนทุกสังกัด ร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จในการควบคุมวัณโรคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสามารถผลักดันให้ประเทศไทยหลุดพ้นจาก 22 ประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยวัณโรคมากที่สุดในโลก พร้อมทั้งสร้างแนวร่วมในการทำงานด้านการควบคุมวัณโรคอย่างเข้มข้น ภายใต้ขั้นตอนการดำเนินงานที่เป็นระบบและมีมาตรฐานเดียวกัน โดยมีนายสามารถ ตันอริยกุล ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ นายโกวิท ยงวานิชจิต รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย ตัวแทนผู้ประสานงานวัณโรคจาก โรงพยาบาลสังกัดภาครัฐ ภาคเอกชน และศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย จำนวน 117 แห่ง รวมทั้งสิ้นจำนวน 262 คน

ดร.ผุสดี กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยมีความห่วงใยและให้ความสำคัญกับปัญหาวัณโรคอย่างต่อเนื่องจึงได้ดำเนินงานควบคุมวัณโรค โดยยึดตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและสอดคล้องกับแผนงานควบคุมวัณโรคแห่งชาติ ซึ่งมีเป้าหมาย เพื่อค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในระยะแพร่เชื้อให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ของจำนวนผู้ป่วยวัณโรคที่คาดประมาณการ และให้การรักษาผู้ป่วยในระยะแพร่เชื้อให้หายอย่างน้อยร้อยละ 85 ของจำนวนผู้ป่วยวัณโรคที่ตรวจพบ อย่างไรก็ตามการที่จะบรรลุเป้าหมายได้นั้น ต้องได้รับความร่วมมือจากสถานพยาบาลทุกแห่งในการร่วมดำเนินงานไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งการวินิจฉัย การรักษาการติดตามผู้ป่วยที่ขาดยา การส่งต่อผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญต้องมีการรายงานข้อมูลวัณโรคอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อทราบสภาพปัญหาและสถานการณ์ที่แท้จริงของวัณโรค ร่วมกัน สร้างความเข้มแข็งในการควบคุมวัณโรค สร้างกรุงเทพมหานครให้เป็นมหานครแห่งความปลอดภัยและเป็นมหานครแห่งความสุขอย่างยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยได้จัดรถหน่วยรถเอกซเรย์ปอดเคลื่อนที่ซึ่งทราบผลการตรวจทันที ออกให้บริการเชิงรุกในชุมชน วัด หน่วยงานและสถานที่ที่เป็นแหล่งเสี่ยงต่างๆ หมุนเวียนกันทั่วกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง จึงขอเชิญประชาชนเข้ารับบริการตรวจโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก  วันที่ 1 ตุลาคม 2556