หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ - สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศกว่า 250,000 ราย เตรียมลงนามร่วมกันเพื่อส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจ สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เพื่อคัดค้านการนำเข้าสุกรจากสหรัฐ และเพื่อปกป้องอาชีพการเลี้ยงสุกรให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า สมาคมในฐานะตัวแทนเกษตรกรจะส่งหนังสือคัดค้านการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐ ต่ออธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจ สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เพื่อแสดงจุดยืนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไทยทั่วประเทศที่คัดค้านการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐ เนื่องจากเป็นการทำลายอาชีพผู้ลี้ยงสุกรของไทยทั้งระบบ
"พวกเรายืนยันว่าจะนำเข้าหมูจาก สหรัฐไม่ได้เด็ดขาด หากรู้ว่ามีการอนุมัติ ให้นำเข้ามาที่ท่าเรือไหน ตู้คอนเทนเนอร์ใด เราก็จะป้องกันไม่ให้เข้าสู่ตลาดได้" นายสุรชัยย้ำและว่า หากรัฐบาลไทยยินยอม อนุมัติตามคำขอของสหรัฐ เท่ากับทำลายอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรของไทยทั้ง ระบบ ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศพร้อมที่จะรวมพลังกัน เพื่อปกป้อง อาชีพของตัวเองแน่นอน ไม่ว่าจะในรูปแบบใด
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สหรัฐได้ใช้ความพยายามอีกครั้งผ่านกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศของไทย เรียกร้องให้ไทยเปิดตลาดเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ โดยจะเร่งปรับค่าปริมาณสารเร่งเนื้อแดงที่ตกค้างในเนื้อสุกรของสหรัฐให้สอดคล้องกับมาตรฐาน Codex นั้น นับเป็นการกดดันประเทศไทยอีกครั้ง และสะท้อนสัญญาณไม่ดีที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐจะพยายามทุกวิถีทางที่ให้ไทยเปิดนำเข้าสินค้าดังกล่าวให้ได้
สมาคมขอยืนยันว่า ผลผลิตเนื้อสุกรที่ไทยผลิตได้มีปริมาณเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ไม่ขาดแคลน ทั้งบางช่วงเวลามีผลผลิตเกินความต้องการด้วย ดังนั้น ประเทศไทยควรจะผลักดันให้เกิดการส่งออกเนื้อสุกรแทนการนำเข้าเนื้อสุกร ไม่ว่าจากสหรัฐหรือประเทศใด ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐ ยอมรับว่ายังใช้สารเร่งเนื้อแดงแรกโตพามีน ซึ่งมีฤทธิ์ก่อให้เกิดโรคมะเร็งในกล้ามเนื้อมดลูก ลำไส้เล็ก และหลอดอาหาร แม้จะบอกว่าพยายามควบคุมสารตกค้างให้ได้มาตรฐานสารดังกล่าว ก็ยังเป็นสารเคมีที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศเป็นสารต้องห้ามในการใช้เลี้ยงสัตว์
"เรามั่นใจในมาตรฐานและกฎหมายไทย เนื่องจากประเทศเราห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงมานานแล้ว อย่างนี้รัฐบาลไทยยิ่งไม่ควรไปเจรจาประเด็นนี้กับสหรัฐเลย ทำไมต้องเอาหมูไทยไปเป็นเครื่องต่อรอง ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าจะเกิดหายนะอะไรบ้างในประเทศของเรา" นายสุรชัยกล่าว
นายสุรชัยกล่าวอีกว่า เกษตรกร ผู้เลี้ยงหมูในประเทศเวียดนามจำนวนมากต้องล้มละลายจากการเปิดนำเข้าหมูสหรัฐ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมาก เพราะสหรัฐส่งชิ้นส่วนที่เหลือทิ้ง ไม่เป็นที่ต้องการบริโภคของชาวอเมริกันเข้ามาในราคาที่ต่ำ ทำให้เกษตรกรในประเทศไม่สามารถสู้ราคาได้ จำต้องเลิกกิจการไปในที่สุด ซึ่งในอนาคตเวียดนามจะไม่เหลือเกษตรกรผู้ผลิตเนื้อหมูเอง และต้องกลายเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศเป็นหลัก
ทั้งนี้ หากรัฐบาลไทยยังดึงดันจะอนุมัติการนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศก็พร้อมจะเดินหน้าปกป้องอาชีพเลี้ยงหมูที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคนให้คงอยู่กับคนไทยสืบไป และภาครัฐบาลคงได้เห็นการยกระดับการต่อต้านของเกษตรกรอย่างคาดไม่ถึงแน่นอน
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 19 - 22 ก.ย. 2556--
- 1 view