กระทรวงสาธารณสุข ปฏิรูปโครงสร้างระบบสุขภาพ ปรับโครงสร้าง บทบาทการทำงานของกรมวิชาการและ สำนักงานปลัดกระทรวง ให้สนับสนุนการทำงานของเขตบริการสุขภาพ 12 เขตและกทม. เริ่มต้นวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ตั้งคณะกรรมการ 3 คณะ พัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม
วันนี้ (5 กันยายน 2556) นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง และอธิบดีทุกกรม ว่า ในวันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างสาธารณสุข ตามที่ได้กำหนดไว้ว่าวันที่ 1 ตุลาคมจะต้องมีการตั้งเขตบริการสุขภาพ และปรับปรุงโครงสร้าง บทบาทหน้าที่ การทำงานของกรมต่างๆ รวมทั้งสำนักงานปลัดกระทรวง เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่จะขึ้นเป็นเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขตและกทม. โดยกระทรวงสาธารณสุข จะตั้งคณะกรรมการ 3 คณะใหญ่ ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายระบบสาธารณสุข คณะกรรมการนโยบายบริการสุขภาพ และคณะกรรมการเขตสุขภาพเครือข่ายบริการที่ 1-12 และเขต กทม. เพื่อพัฒนาข้อเสนอ พิจารณาทางเลือกตัดสินใจเชิงนโยบาย และขับเคลื่อนนโยบายการปฏิรูปกระทรวงไปสู่การปฏิบรรม
นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า ในส่วนบทบาทของการเป็นผู้กำหนดนโยบายสาธารณสุข (National Health Authority) จะจัดตั้งหน่วยงานใหม่ที่จำเป็นขึ้นมาเพื่อรองรับภารกิจที่ต้องดำเนินการ เช่น สำนักพัฒนานโยบายการคลังและเศรษฐกิจสุขภาพ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์กำลังคนด้านสุขภาพ สำนักนโยบายเรื่องยา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีการใช้ยาปีละ 40,000 กว่าล้านบาท จะพัฒนาการใช้ยาให้มีประสิทธิภาพ คุ้มค่าการลงทุน เพื่อใช้งบประมาณด้านยาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้สถานะทางการเงินของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้มีปัญหาในเชิงนโยบายหลายเรื่อง เช่น การบริหารจัดการยาในบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อให้มียาที่สามารถดูแลประชาชนได้ครบ โดยรัฐบาลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้ รวมทั้งแก้ปัญหาการดื้อยาปฏิชีวนะในโรงพยาบาลจากการใช้ยาโดยไม่จำเป็น ซึ่งประมาณการว่าเสียหายปีละเป็นแสนล้านบาท รวมทั้งตั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมพัฒนากฎหมายเพื่อสุขภาพ ดูแลเรื่องกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ ซึ่งบางฉบับใช้มานาน ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ทันสมัย และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า สำหรับการใช้งบประมาณปี 2557 ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2556 กำหนดว่าภายในธันวาคมปีนี้ จะใช้งบลงทุนในหมวดครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ทั้งการเซ็นสัญญาและเบิกจ่ายเงิน ได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนสิ่งก่อสร้างต่างๆ จะเริ่มเซ็นสัญญาและการจ่ายเงินมัดจำไปก่อน เป็นการแสดงประสิทธิภาพการทำงานในระบบของกระทรวงสาธารุขทั้งหมด และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้มีการใช้งบประมาณเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้
- 4 views