กรุงเทพดุสิตเวชการ เนื้อหอม โวโรงพยาบาลใน-ต่างประเทศติดต่อขอควบรวมกิจการ ตัวเลือกต้องเป็นทำเลที่กลุ่มยังไม่มีเท่านั้น คาดไตรมาส 4 ปิดดีลซื้อกิจการอย่างน้อย 1 แห่ง ส่วนต่างประเทศ ลุยลงทุนเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา ประเดิมเมืองย่างกุ้ง คาดถือหุ้น 51% ขณะที่อยากได้ 70% ยันเป้าขยายอาณาจักรครบ 50 แห่งปี 58 ทั้งสร้างใหม่และเทกโอเวอร์
น.พ.ชาตรี ดวงเนตร กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-การแพทย์ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน)(บมจ.)(BGH) เปิดเผยถึงแผนขยายธุรกิจโรงพยาบาลว่า คาดการณ์ไตรมาส 4 ปีนี้จะได้ข้อสรุปซื้อกิจการโรงพยาบาลในประเทศเพิ่มอีก 1 แห่ง นอก จากนี้ยังมีโรงพยาบาลทั้งในและต่างประ เทศ เข้ามาติดต่อหลายรายเพื่อเข้าควบรวมกิจการ ขณะที่บริษัทจะพิจารณาโรงพยาบาลในทำเลที่บริษัทยังไม่มี และมองว่าเป็นโอกาสดี รวมทั้งมีกำลังผนึก (Synergy) ร่วมกัน
โดยปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 7 พันล้านบาท สำหรับการลงทุนโรงพยา บาลใหม่มากกว่า 10 แห่ง (ไม่รวมการลงทุนในเมียนมาร์) ทั้งจากการเข้าซื้อกิจการควบรวมกิจการ และสร้างโรงพยา บาลใหม่ รวมถึงการซื้อที่ดินและเช่าที่ดิน เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่จะมีจำนวนโรงพยาบาลครบ 50 แห่งทั้งในและต่างประเทศภายในปี 2558 จากปัจจุบันมีจำนวนโรงพยาบาล 30 แห่ง เงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสด และการออกหุ้นกู้ ซึ่งได้ออกไปแล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ครึ่งปีแรกใช้เงินลงทุนแล้ว 2-3 พันล้านบาท
บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 28 สิงหา คมที่ผ่านมา อนุมัติการตั้งบริษัทย่อย 3 บริษัท ในเมียนมาร์, ลาว และกัมพูชา โดยถือหุ้นผ่าน N Health Asia Pte.Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในสิงคโปร์ สัดส่วน 60% ใน เมียนมาร์, 70% ในลาว และ 100% ในกัมพูชา เพื่อสนับสนุนธุรกิจโรงพยาบาล เช่น ธุรกิจแล็บ การดูแลเครื่องมือแพทย์
ขณะที่น.พ.ชาตรี กล่าวว่า เป้าหมายการลงทุนในต่างประเทศของกลุ่มบริษัทจะให้ความสำคัญกับเมียนมาร์เป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นกัมพูชา และลาว สาเหตุที่ให้ความสนใจเมียนมาร์เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพ มีทั้งจำนวนประชากรที่มีความต้องการใช้บริการด้านการแพทย์ เบื้องต้นก็ใช้วิธีการเปิดบริการด้านแล็บ ร่วมกับพาร์ต เนอร์ เพื่อทำความคุ้นเคยกับประชาชนที่นั่นก่อน และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการโรงพยาบาลที่เมืองย่างกุ้งได้ก่อนเป็นแห่งแรก โดยขณะนี้รอความชัดเจนเรื่องกฎหมายให้เข้าไปลงทุนตั้งโรงพยา บาลเพราะกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถถือหุ้นได้แค่ 51% และหากสามารถถือหุ้นได้ 70% ก็ถือเป็นระดับที่เหมาะสม
อนึ่งปัจจุบัน บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการและกลุ่มมีโรงพยาบาลรวม 30 แห่ง แบ่งเป็นแบรนด์โรงพยาบาลกรุง เทพ 15 แห่ง, พญาไท 4 แห่ง, เปาโล 4 แห่ง, สมิติเวช 4 แห่ง, บีเอ็นเอช 1 แห่ง และโรงพยาบาลในต่างประเทศ 2 แห่ง
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 1 - 4 ก.ย. 2556--
- 4 views