ขอสันติสุข - นายดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พร้อมชาวมุสลิมกว่า 1,500 คน ร่วมละหมาดฮายัตขอพรให้พื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และทั่วประเทศเกิดความสงบสันติสุข ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 29 ส.ค.

สมช.หนุนแก้กฎหมายใบกระท่อมพ้นบัญชียาเสพติด แนะต้องทบทวนว่าจะเกิดประโยชน์หรือโทษมากกว่ากัน ขนาดมาเลย์กฎหมายแรงกว่าไทยยังไม่ขึ้นบัญชี หวั่นจนท.ใช้เป็นช่องทางเอาผิดชาวบ้าน กระทบการแก้ปัญหาไฟใต้ "พงศพัศ" สั่งศึกษาแก้กฎหมาย สธ.หารือคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด เพื่อศึกษาหาความเป็นไปได้ พระบรมฯ ทรงรับบุตร "อิหม่ามยะโก๊บ" ไว้ในพระอุปถัมภ์ ท่ามกลางความปลื้มปีติของครอบครัว "อิหม่ามยะโก๊บ"

สมช.ชงแก้กม.ใบกระท่อม

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยกรณีที่นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีแนวคิดยกเลิกใบกระท่อมให้พ้นจากบัญชีของยาเสพติด ว่า ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายให้หลายๆ ฝ่ายต้องขบคิดถกเถียงกัน ว่าใบกระท่อมเป็นโทษหรือเป็นคุณกว่ากัน แต่หากมองประเทศอื่นๆ วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ก้าวหน้ากว่าไทย จึงมองเป็นคุณประโยชน์ได้ แม้แต่ที่มาเลเซีย มีกฎหมายที่เข้มงวดกว่าไทยมาก ก็ไม่นับว่าใบกระท่อมเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย ต้องยอมรับว่าในไทยมีช่องว่างระหว่างความคิดความเชื่อของชาวบ้านกับวิธีคิดของวงการแพทย์ ถ้ามีการวิจัยที่ดีน่าจะลดช่องว่างนี้ได้

หวั่นหาช่องเอาผิดชาวบ้าน

เมื่อถามว่า หากใบกระท่อมไม่ผิดกฎหมาย อาจช่วยลดเงื่อนไขความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้หรือไม่ เลขาฯ สมช. กล่าวว่า เป็นไปได้ ไม่เฉพาะชาวบ้านใน 3 จังหวัด ชาวบ้านที่อื่นๆ โดยเฉพาะชาวนาชาวสวน ก็ไม่คิดว่าการกินใบกระท่อมในชีวิตประจำวันจะผิดแต่อย่างใด ขณะที่เจ้าหน้าที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย เมื่อใบกระท่อมผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ใช้เป็นข้ออ้างในการปิดล้อมจับกุม เพราะเจ้าหน้าที่ ส่วนหนึ่งมีความคิดความเชื่อ ว่าชาวบ้านเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และอาจพัฒนากลายเป็นความยุ่งยากซับซ้อนของเหตุรุนแรงเข้าไปอีก โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่หลายกรณีก็เกิดการปะทะกันโดยไม่มีความจำเป็น ซึ่งการบุกจับใบกระท่อมถือเป็นเงื่อนไขหนึ่ง แต่ไม่ใช่เงื่อนไขทั้งหมดของเหตุรุนแรง

"เชื่อว่าถ้ามีการศึกษาที่ดี ทำให้สิ่งผิดกฎหมายกลายเป็นคุณประโยชน์ หรือนำมาใช้ในทางสร้างสรรค์ได้ ย่อมดีกว่าปล่อยให้เป็นเครื่องมือของเหตุรุนแรงอยู่อย่างทุกวันนี้" เลขาฯ สมช. กล่าว

รอคำอธิบาย 5 ข้อบีอาร์เอ็น

เมื่อถามว่า มีสัญญาณการนัดพูดคุยสันติภาพ กับบีอาร์เอ็นครั้งต่อไปแล้วหรือยัง เลขาฯ สมช. กล่าวว่า เชื่อว่าในเร็ววันนี้จะได้คำตอบเกี่ยวกับคำอธิบายข้อเสนอ 5 ข้อ ของ บีอาร์เอ็นส่งกลับมา ส่วนฝ่ายไทยก็ต้องเตรียมพร้อมในการนำเสนอประเด็นการพูดคุยกลับไปเช่นกัน โดยเฉพาะเหตุรุนแรงในช่วง 40 วันเดือนรอมฎอน ซึ่งกำลังเร่งสรุปเป็นรายคดี เพื่อจะได้สืบสภาพกับฝ่ายบีอาร์เอ็นได้ว่า คดีไหนที่ฝ่ายเขามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

"พงศพัศ"สั่งศึกษาแก้กฎหมาย

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการแก้กฎหมายยกเลิกใบกระท่อมจากพ.ร.บ.ยาเสพติด ว่า ที่ผ่านมา ป.ป.ส. ศึกษาเรื่องดังกล่าวมานาน และโดยส่วนตัวเห็นว่าใบกระท่อมไม่มีฤทธิ์รุนแรง แต่การจะแก้กฎหมาย ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาถึงที่มาที่ไปของกฎหมายเดิม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการสรุปข้อมูล เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หากได้ข้อสรุปว่าใบกระท่อมยังเป็นยาเสพติด ก็ต้องยึดข้อกฎหมายเดิมแต่หากเห็นว่าใบกระท่อมไม่ใช่ยาเสพติด ก็จะต้องพิจารณาแก้กฎหมายต่อไป

"ถึงแม้ใบกระท่อมจะไม่มีฤทธิ์รุนแรง แต่หากนำไปปรุงแต่งให้เป็นสารเสพติด ก็ถือว่ากระทำผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย และการแก้กฎหมายให้มีความชัดเจน จะเป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่เฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับใบกระท่อมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสารเสพติดชนิดอื่น ที่จะต้องพิจารณาโทษและความผิด เนื่องจากขณะนี้สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก" เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าว

"หมอประดิษฐ"ให้สธ.หารือ

นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องขอหารือกับคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีปลัดสธ.เป็นประธานก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า จะยกเลิกใบกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ในลักษณะใด ซึ่งอาจจะยกเลิกโดยอนุญาตให้ปลูกได้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น หรือจะยกเลิกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษ และเปิดให้ใช้อย่างเสรี ตรงนี้ต้องมาพิจารณาตัวกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่ หรือต้องแก้กฎหมายอย่างไรบ้าง เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีผลการศึกษาใดว่า หากยกเลิกใบกระท่อมจากการเป็นยาเสพติดและนำมาใช้เป็นประโยชน์ทางการแพทย์นั้น จะคุ้มค่าต่อการใช้ยาแผนปัจจุบันหรือไม่ ดังนั้น จึงต้องหารือก่อน คาดว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการ ในเร็วๆ นี้

ผบ.ทบ.ไม่ขัด-รับเสียงส่วนใหญ่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการหารือและมีการเปรียบเทียบหลายประเทศมีทั้งยกเลิกและขึ้นทะเบียน ตนคงไม่ละเมิดแนวคิด แต่ที่ตนทำคือการสร้างจิตสำนึกของคนไทย ไม่ว่าจะยาอะไร หรือใบอะไร หากไม่ไปเสพก็จะดี เรียกว่าลดความต้องการ สิ่งสำคัญคนไทยต้องควบคุมตนเองให้ได้ ใบกระท่อมต้องอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาทางการแพทย์ กฎหมาย คนไทยส่วนใหญ่จะรับได้หรือไม่ได้ต้องไปว่ากัน หากอาศัยเสียงส่วนใหญ่ในการทำอะไรต่างๆ เราคงฝืนมติไม่ได้ ต้องกลับมาหารือกันให้ดีและหาข้อยุติ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แต่สิ่งที่เป็นห่วง หากใบกระท่อมอย่างเดียวคงไม่รุนแรงมากนัก ตามผลวิจัยทางการแพทย์ หากมีการขาย ต้ม ร่วมกับอย่างอื่นจะทำให้หาวัสดุการผลิตได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวัง วันนี้เราดูแลใบกระท่อมในพื้นที่ภาคใต้อยู่แล้ว ซึ่งมีเป็นจำนวนมากพอสมควร หากจะให้มีได้ก็ต้องทำให้ชัดเจน อะไรจะควบคุม ควบคุมกันอย่างไร ไม่เช่นนั้นจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ตนไม่ได้ขัดแย้งอะไรทั้งสิ้น ยอมรับในความคิดเห็นของทุกคน

โฆษกทบ.สั่งล่าตัวมือแขวนธง

ด้านพ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณา จักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ตรวจพบถุงบรรจุผืนผ้าคล้ายธงชาติของประเทศมาเลเซีย 100 ผืน เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา และมีการดัดแปลงให้ผืนผ้าดังกล่าวมีสีและรูปร่างลักษณะคล้ายธงชาติของมาเลเซีย พร้อมเขียนข้อความที่สื่อในทางที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เตรียมนำไปติดในวันชาติมาเลเซีย ว่า เพื่อป้องกันการเกิดความเข้าใจผิด จึงขอความร่วมมือประชาชนได้รับทราบข้อมูลหรือพบเห็นผืนผ้าดังกล่าว ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ทันที

"ระแงะ"ยิงหนุ่มดับคาสวน

ส่วนเหตุร้ายรายวัน เริ่มเวลา 07.10 น. ร.ต.ท.รัชตะ นวลหอม พนักงานสอบสวน สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตภายในสวนทุเรียน ริมถนนสายฮูลูปาเระ-ตันหยงลิมอ หมู่ 7 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จึงพร้อมด้วยพ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ พ.ต.อ.จันที แจ่มจันทร์ ผกก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 รุดไปตรวจสอบ

พบศพนายสามือลี เจ๊ะกอ อายุ 29 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิด ที่บริเวณท้ายทอย 1 นัด จากการตรวจสอบประวัติผู้ตาย พบว่าเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยตามหมายพ.ร.ก.คดีความมั่นคง โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานใดๆ จึงนำศพส่งผ่าชันสูตรต่อไป เบื้องต้นมุ่งปมขัดแย้งส่วนตัว แต่ไม่ทิ้งประเด็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

"ปัตตานี"ยิงอส.ดับอีก 1

ที่จ.ปัตตานี พ.ต.ท.ประวิทย์ เขียวไสว รอง ผกก.สภ.กะพ้อ รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายยิงนายมะหะมะเสาะ วาเตะ อายุ 49 ปี อาสาสมัครรักษาดินแดน อ.กะพ้อ เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนที่ หมู่ 8 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ ขณะผู้ตายกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เพียงลำพังกลับจากส่งลูกไปโรงเรียนมุ่งหน้ากลับบ้านพัก โดยคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงด้วยอาวุปืนไม่ทราบชนิด 5 นัด กระสุนถูกร่างพรุน เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

สมเด็จพระบรมฯทรงให้กำลังใจ

วันเดียวกัน ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายประมุข ลมุล ผู้ว่าฯ ปัตตานี เป็นผู้แทนพระองค์อ่านสาส์นของสำนักราชเลขานุการในพระองค์ กองกิจการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ซึ่งในโอกาสที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จทรงติดตามการดำเนินงานโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ณ โรงพยาบาลปัตตานี เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ในการนี้โปรดให้ นางแวรอฟิอ๊ะ หร่ายมณี ภรรยา พร้อมมารดาแวรอฟิอ๊ะ พร้อมบุตรชายและบุตรสาว ของนายยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ที่ถูกกลุ่มคนร้ายยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 ส.ค. เข้าเฝ้าเพื่อประทานขวัญกำลังใจ

ครอบครัว"ยะโก๊บ"ปลื้มปีติ

โดยมีกระแสรับสั่งแสดงความเสียพระทัย ต่อการจากไปของผู้นำครอบครัว นอกจากนี้ ทรงรับสั่งให้บุตรทั้งสองคน ประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นคนดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่อเลี้ยงดูมารดาในอนาคต พร้อมกันนี้ ทรงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าให้การช่วยเหลือเยียวยาด้านสิทธิประโยชน์อื่นๆ ให้กับครอบครัวนี้อย่างดีที่สุด

และในการนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงรับนายบูรฮาน หร่ายมณี อายุ 16 ปี ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ และด.ญ.บุศรินทร์ หร่ายมณี อายุ 10 ขวบศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนแหลมทองอุปถัมภ์ บุตรของนายยะโก๊บ หร่ายมณี และนางแวรอฟิอ๊ะ หร่ายมณี ไว้ในพระอุปถัมภ์ฯ โดยพระราชทานความช่วยเหลือด้านการศึกษาให้แก่บุตรทั้ง 2 ได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบชั้นปริญญาตรี หรือจนกว่าจะมีอาชีพที่สามารถเลี้ยงครอบครัวต่อไป

นราฯละหมาดสร้างสันติสุข

ที่จ.นราธิวาส พล.ต.พิสิทธิ์ สิทธิสาร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วยนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าฯ นราธิวาส เข้าร่วมกิจกรรมพสบ.สร้างสันติสุขชายแดนใต้ ซึ่งมีการรวมตัวของกลุ่มผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อแสดงพลังต่อต้านการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ รวมถึงแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งในกิจกรรมมีการร่วม ละหมาดฮายัตและร่วมสวดมนต์ขอพร ทั้งนี้ เพื่อให้พื้นที่เกิดความสันติสุข ตลอดจนร่วมขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง

"ปัตตานี"ขอพรสงบสุข

ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี นายดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่ปัตตานี กว่า 1,000 คน ร่วมกันละหมาดฮาญัตขอพรให้พื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งทั่วประเทศเกิดความสงบสันติสุขในทุกๆ ด้าน

นายดือราแมกล่าวว่า จากสภาพปัญหาต่างๆ ที่เกิดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ในหลายภูมิภาค และรวมทั้งปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ต่อต้านความรุนแรงจากการก่อการร้าย ทุกฝ่ายจึงต้อง ช่วยกันเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีระหว่างคนในชาติให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน รวมถึงทุกภาคส่วน เพื่อกลับคืนสู่ความสงบสันติสุข

ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod