นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 พ.ค.56 มีผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ในความดูแลของ สปส. จำนวน 65,000 ราย ในปี 2556 สปส.ได้จัดซื้อยาต้านไวรัสเอชไอวีไปแล้วเป็นเงิน 356.53 ล้านบาท ทั้งนี้ การให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์นั้น จะได้รับการรักษาและการรับยาต้านไวรัสนี้ได้เร็วขึ้นทำให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยพบว่าผู้ประกันตนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ
นายจีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน สปส.ได้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ตามประกาศคณะกรรมการแพทย์ฯ เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ประกันตนติดเชื้อเอช ไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ ฉบับใหม่ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 5 มิ.ย.56 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.56 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์สามารถรับยาต้านไวรัสได้เร็วขึ้น หรือได้ปรับการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวี จากเดิมผู้ป่วยต้องมี CD4 น้อยกว่า หรือเท่ากับ 200 Cells/mm3 เป็น CD4 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 350 Cells/mm3 ผู้ประกันตนสามารถได้รับยาต้านไวรัสได้ทันที และยังได้มีการปรับสูตรยาต้านไวรัส ซึ่งทั้งเกณฑ์การเริ่มการให้ยาและสูตรยาต้านไวรัสที่ปรับปรุง เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับการรักษาและยาต้านไวรัส ทั้งสูตรพื้นฐาน สูตรทางเลือก และสูตรดื้อยา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 16 สิงหาคม 2556
- 15 views