เชียงใหม่-กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ เผย ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลญี่ปุ่นกว่า 4 ล้านบาท สนับสนุนโครงการการให้การศึกษาเรื่องเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์สำหรับเยาวชนในเชียงใหม่ เพื่อปลูกฝังความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี
นายอะคิฮิโกะ ฟุจิอิ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ทางกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ภายใต้องค์การพีเอช-เจแปน องค์กรเอกชนของญี่ปุ่น ได้มีการลงนามความร่วมมือกับผู้อำนวยการภูมิภาคประจำประเทศไทย และเวียดนาม องค์กรพีเอช-เจแปน ในการดำเนินโครงการการให้การศึกษาเรื่องเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์สำหรับเยาวชนใน จ.เชียงใหม่ ที่ผ่านมาทางองค์การพีเอช-เจแปนได้ดำเนินการโครงการป้องกันเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัย โดยความร่วมมือของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่และบุคลากรของโรงเรียน และได้ริเริ่มโครงการให้ความรู้ในการป้องกันเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชนใน จ.เชียงใหม่ มาตั้งแต่ปี 2545 เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้แก่เยาวชน เพื่อถ่ายทอดต่อไปยังชุมชน
ทั้งนี้ประเทศไทยได้ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ ในฐานะวาระแห่งชาติ เนื่องจากในปัจจุบันพบว่า มีวัยรุ่นที่ต้องเผชิญกับการติดเชื้อเอชไอวีมากที่สุด โดยสาเหตุหลักของการติดเชื้อเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ โดยกลุ่มวัยรุ่นมักมีพฤติกรรมในการเปลี่ยนคู่นอนหลายคน และไม่ป้องกันให้ถูกต้อง คือไม่ใช้ ถุงยางอนามัย จนก่อให้เกิดปัญหา ซึ่งทาง องค์การพีเอช-เจแปน องค์กรเอกชนของญี่ปุ่น เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว และให้ความสำคัญในการส่งเสริมความรู้ให้แก่เยาวชน ซึ่งเป็น กลุ่มเสี่ยง ที่ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในสังคม
นายอะคิฮิโกะ กล่าวว่า จากคำร้องขอของ องค์การพีเอช-เจแปน ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติงบประมาณสำหรับโครงการในระยะแรก เพื่อใช้ในการจัดหาอุปกรณ์ทางการศึกษา เพื่อจัดการเรียนรู้แก่เยาวชน ตลอดจนจัดการสัมมนาในเรื่องการป้องกันเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ให้แก่เยาวชนและบุคลากรของโรงเรียน รวมมูลค่าความช่วยเหลือทั้งสิ้น 4,054,100 บาท ในการดำเนินการให้ความรู้ในการป้องกันเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์แก่เยาวชน ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เยาวชนได้รับรู้ถึงข้อมูลในเรื่องของเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ที่ชัดเจนถูกต้อง ซึ่งจะเป็นการช่วย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีด้วย
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
- 2 views