นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สปส.ได้ ประกาศอัตราผลประโยชน์ตอบแทน เงินบำเหน็จชราภาพ ประจำปี 2555 โดย คำนวณจากค่าเฉลี่ยผลประโยชน์ที่ได้รับ จากการนำเงินกองทุนไปลงทุน ซึ่งผู้ประกันตน มาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39  กำหนดอัตราผลประโยชน์ตอบแทนให้จ่ายในอัตราร้อยละ 4.15 ต่อปี ของเงินสมทบที่ผู้ประกันตน และนายจ้างจ่ายสมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ

นายจีรศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ประกันตน ที่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพนั้น คือผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบไม่ครบ  180 เดือน แต่มีอายุครบ 55 ปี และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ซึ่งเงิน บำเหน็จชราภาพจะจ่ายให้ตามระยะเวลา นำส่งเงินสมทบกรณีสงเคราะห์บุตร และชราภาพของผู้ประกันตนโดยกรณี ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบต่ำกว่า  12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ เท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตน จ่ายเงินเข้ากองทุนเพียงส่วนเดียว ส่วนผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบ ตั้งแต่  12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบในส่วนที่ผู้ประกันตน และนายจ้าง จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนพร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สปส. กำหนดให้แต่ละปี

"การขอรับประโยชน์ทดแทนนั้น เพียงแค่ผู้ประกันตนกรอกแบบคำขอรับ ประโยชน์ทดแทน พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน กรณีผู้ประกันตน ที่ถึงแก่ความตายให้ทายาทหรือผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทน นำสำเนาทะเบียนบ้าน ใบมรณบัตร และสำเนา เอกสารหลักฐานของผู้มีสิทธิรับประโยชน์ ทดแทน ยื่นที่ สปส.พื้นที่/จังหวัดทุกแห่ง ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิต้องรีบยื่นเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทน ภายใน 1 ปีนับจากวันที่มีสิทธิ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือโทร.1506 ซึ่งให้บริการ 24 ชั่วโมง"

ที่มา: http://www.naewna.com