คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใช้เวลาเกือบ 10 ปี ในการปิดฉากคดีการยกเลิกการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข หรือที่เรียกว่า คดีคอมพ์ฉาว กันมาตลอดเป็นการ ปลดชนัก ที่ติดหลังผู้ที่ถูกกล่าวหาอย่างหมดจด โดยเฉพาะมติ 8 ต่อ 0 ที่ยกคำร้องข้อกล่าวหาที่มีต่อฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต รมว.สาธารณสุข คุณอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตเลขานุการ รมว.สาธารณสุข และ คุณยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตผู้ช่วย รมต. ประจำกระทรวงสาธารณสุข

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ประกอบกับบางฝ่ายมีท่าทีไม่นิ่งหรือออกอาการ จนทำให้หลาย ฝ่ายคาดการณ์ถึงผลการตัดสินของ ป.ป.ช. ไปต่าง ๆ นานา

ทว่าเมื่อผลการตัดสินออกมาแล้วดูเหมือน ดร.ภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ที่ขอถอนตัวไปก่อนหน้านี้จะสบายตัวที่สุด ไม่ต้องมารับฟังเสียงวิจารณ์ใด ๆ กับกรณีนี้ทั้งสิ้น

จากนี้ต้องรอดูว่า คุณหญิงสุดารัตน์ จะกลับเข้ามาทวงตำแหน่งเจ้าแม่สนาม กทม. คืนเมื่อใด.!!!

ก่อนหน้านี้แม้พลพรรค เพื่อไทยรวมไปถึง คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียรพยายามจะให้ลงสนามเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง แต่จนแล้วจนรอดคุณหญิงหน่อยเธอก็ปฏิเสธ

ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังมีหน้าที่ต้องทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาที่ประเทศอินเดีย.!!!

จนหลายคนแอบไปบ่นกันว่า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ พรรคเพื่อไทย พ่ายแพ้อย่างบอบช้ำในสนามเมืองกรุง 2 หนล่าสุด...??? ยิ่งดูจากข่าวสารในปัจจุบันมีเรื่องราวของผู้ที่อยู่ในผ้าเหลืองประพฤติตนไม่เหมาะสม ทั้งอวดอุตริ ท้าดวลไมค์ดวลมุก เสพเมถุน เป็นข่าวขึ้นหน้า1 ไม่เว้นแต่ละวัน ถ้าเป็นเช่นนี้เห็นทีคุณหญิงหน่อยอาจจะไม่สนใจการเมืองแล้วก็เป็นได้

เพราะเธออาจต้องใช้เวลาไปช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในเมืองไทยที่มัวหมองให้สะอาดเงาวับเป็นที่ศรัทธายั่งยืนสถาพรต่อไปตามประสาพุทธศาสนิกชนที่มีจิตกุศลแรงกล้าหรือไม่.???

ย้อนกลับมาที่ผลการพิจารณาของ ป.ป.ช. ในส่วนของ คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ที่เป็นข้าราชการประจำนั้น บางคนเกษียณอายุราชการไปแล้ว และอีกหลายคนยังอยู่ในราชการ

ป.ป.ช. มีมติ 5 ต่อ 3  เห็นว่าการ เปิดซองและต่อมาเสนอให้ยกเลิกผลการประกวดราคาไม่เป็นความผิด

งานนี้ ป.ป.ช. อ้างถึง อัยการ กรมบัญชีกลาง กระทรวงคลัง และคำสั่งศาลปกครอง ว่า "ตราบใดที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการประกวดราคาฯ และยังไม่มีรายงานผลไปยังผู้มีอำนาจในการจัดซื้อ ตราบนั้นยังถือว่าอยู่ในขั้นตอนที่คณะกรรมการประกวดราคาฯ จะพิจารณาทบทวนได้"

เมื่อผลของ ป.ป.ช. ออกมาเช่นนี้ก็ต้องถือว่าเป็นที่ยุติ ทั้งในส่วน อดีตปลัดกระทรวง และข้าราชการที่เหลือซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการสั่งยกเลิกโครงการและคืนเงิน 821  ล้านบาททั้งหมดจากนี้เชื่อว่าคงมีการฟ้องร้องกับคู่กรณีกันอีกหลายศาลตามมาอย่างแน่นอน

แต่ทว่าจากผลของ ป.ป.ช. ในวันนี้ จะส่งผลถึง ข้าราชการ ในภายภาคหน้าที่ต้องใช้ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดซื้อและพัสดุ อาจต้องปวดหัวมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ

ป่านนี้ นักวิ่งเต้น ทั้งหลายได้เห็นช่องโหว่ใหม่ของระเบียบพัสดุ

จากเดิมเป็นที่รู้กันว่า การวิ่งเต้นทุกอย่างจะจบลงก่อนเปิดซอง แต่หลังจากนี้คนแพ้ประมูลก็ยังวิ่งให้ยกเลิกได้อีก และถ้าประมูลใหม่ฝ่ายที่มีอำนาจยังแพ้อีก

สุดท้ายยังมีไม้ตายส่งเงินกลับคืนคลังไปแล้วโดยไม่มีมลทินใด ๆ ก็ดันมีให้เห็นเป็นตัวอย่างเสียด้วย.!!!.

ที่มา--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 5 ก.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--