มาร์ค ทเวน  นักเขียนอมตะชาวอเมริกันกล่าวติดตลกไว้ว่า ชีวิตคงมีความสุขที่สุดหากแรกเกิดเราเริ่มตั้งต้นกันที่อายุ 80 แล้วค่อยๆ เติบโตไปสู่อายุ 18 เพราะนับวันเราก็จะอ่อนเยาว์และแข็งแรงขึ้น

วันนี้เราอาจทำให้คำกล่าวนั้นเป็นจริง แบบที่ยิ่งอยู่นานยิ่งอ่อนวัย หล่อสวยขึ้นตามตัวเลขของอายุที่เพิ่มขึ้น เพราะได้คัดสรรสารพัดเคล็ดลับการดูแลสุขภาพจาก Blue Zone - ชุมชนคนร้อยปีจากทั่วโลก มาฝาก เพื่อเอาไว้ดูแลสุขภาพให้เป็นหนุ่มเป็นสาวกันตลอดไปค่ะ

 

ชีวิตอมตะที่โอกินาวา

  • กินอาหารเป็นยาตลอดชีวิต

เราเริ่มต้นกันที่โอกนาวา ประเทศญี่ปุ่น ดินแดนที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก มาพบกับ คุณยายคะมะดะ นะคะซะโตะ อายุ 102 ปี กับชีวิตอันแสนวิเศษในวัยกว่าหนึ่งศตวรรษ

อาหารในแต่ละวันของคุณยายมักประกอบด้วยเต้าหู้ ซุปปลา ผักต้ม หัวไชเท้า แครอทและมิโสะซุป คุณยายจะกินแต่พออิ่ม และวันทั้งวันของคุณยายมักจะขลุกอยู่กับถ้วยชาเขียว

ทุกวันคุณยายจะเดินเข้าไปในแปลงผักสวนครัว และสวนสมุนไพรที่อยู่หลังบ้านเพื่อไปเก็บผักและสมุนไพรบางอย่างเพื่อนำมาทำอาหารทั้งเช้า กลางวัน เย็น

บนเกาะโอกินาวานี้ อาหารสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยคือถั่วเหลือง คนโอกินาวากินผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเฉลี่ย 3 ออนซ์ต่อวัน และส่วนใหญ่เลือกที่จะกินอาหารจากถั่วเหลืองแบบที่ผ่านการหมัก เช่น นัตโตะ มากกว่าที่ยังไม่ได้หมัก

นอกจากนี้ชาวโอกินาวายังโปรดปรานมันเทศ ซึ่งเป็นอาหารชั้นเยี่ยมเพราะมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย มีใยอาหารสูง แถมปรุงง่าย

  • ฮะหระ ฮะชิ บุ กินให้แข็งแรงแบบขงจื๊อ

ก่อนกินคุณยายคะมะดะจะพูดว่า “ฮะหระ ฮะชิ บุ”

“ฮะหระ ฮะชิ บุ” เป็นภาษิตขงจื๊อ ที่ผู้เฒ่าผู้แก่ของที่นี่จะกล่าวก่อนกินอาหาร ซึ่งมีความหมายว่า กินให้อิ่มประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับความจริงที่ว่ากว่ากระเพาะอาหารจะส่งสัญญาณไปถึงสมองว่าอิ่มแล้ว ใช้เวลาราว 20 นาที การหยุดกินก่อนรู้สึกอิ่มแปล้จึงดีต่อสุขภาพ

 

ยาอายุวัฒนะในซาร์ดิเนีย

ดี.เอช. ลอว์เรนซ์ เคยเดินทางตามหาวิถีชีวิตที่เรียบง่ายมาถึงที่ซาร์ดิเนียกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนี้เมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว และได้พบว่าที่นี่เป็นเหมือนกับที่เขาฝันไว้ไม่มีผิด 

  • ขยันคือยาดี

คุณตา Giuseppe Mura อายุ 102 ปี อาศัยอยู่ครอบครัวของมาเรีย ลูกสาว มาเรียเล่าถึงเหตุผลหลักที่ทำให้คุณตามีอายุยืนว่า

“คุณตาทำงานมาตลอด เริ่มทำไร่ ต่อมาก็ทำงานเป็นคนต้อนแกะอยู่ในทุ่งหญ้า ทำให้ได้เดินอยู่เกือบทั้งวัน คุณตาจะกลับมากินข้าวที่บ้านตอนเที่ยง แล้วงีบหลับ หลังจากนั้นในตอนบ่ายแก่ๆ ก็จะพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ ที่จัตุรัสประจำหมู่บ้าน แล้วกลับเข้าบ้านอีกทีก็ตอนหัวค่ำ

“ด้วยการใช้ชีวิตที่ขยันขันแข็ง การพักผ่อนกายใจอย่างมีจังหวะจะโคน ทำให้ทุกวันคุณตาได้เผาผลาญพลังงาน 490 แคลอรี่ หายห่วงเรื่องน้ำหนักเกินต้นเหตุของสารพัดโรคกันได้เลยแถมอาหารของคุณตาส่วนใหญ่ปรุงด้วยด้วยถั่ว”

  • ครอบครัวต้องมาก่อน

คนร้อยปีของที่นี่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ครอบครัวที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าทุกคนจะได้รับการดูแล ทำให้ทุกข์ด้วยความเครียดหรือความวิตกกังวลน้อยลง

ในสังคมที่นี่ปู่ยาตายายจะได้รับความรัก ได้เลี้ยงดู ได้ปลูกฝังปัญญา และแรงบันดาลใจให้หลานๆ ทั้งยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันหลานๆ ให้เจริญก้าวหน้า ทั้งหมดนี้จึงทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าอยู่เสมอ ทำให้มีกำลังใจที่ดีในการมีชีวิตอยู่

 

อายุยืนแบบคนเมืองอเมริกัน

ใครว่าคนเมืองมักสุขภาพอ่อนแอ เรามาล้วงเคล็ดลับสุขภาพดีแบบคนร้อยปีในเมืองกันบ้างค่ะ

  • ออกกำลังกายยามเช้า

คุณยายมาร์จ เจทตัน อายุ 100 ปี ทุกเช้าคุณยายมาร์จตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เริ่มวันใหม่ด้วยการอ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ล

หลังจากสวดมนต์และคิดพิจารณาใคร่ครวญในคำสอนแล้ว คุณยายจะเดินเรียกพลังไปรอบๆ ห้องในบริเวณอพาร์ตเมนท์ที่อาศัยอยู่ 6 รอบ ซึ่งเท่ากับระยะทาง 1 ไมล์  คุณยายเล่าว่า

“ยายจะเดินไปรอบห้อง และเมื่อครบ 1 รอบก็จะดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังจากนั้นจะปั่นจักรยานแบบเครื่องปั่นอยู่กับที่ วันละ 6-8 ไมล์ ปั่นที่ความเร็ว 25-30 ไมล์ต่อชั่วโมง นาน 15 นาที ต่อด้วยการยกน้ำหนักแบบเบาๆ ใช้แขน 2 ข้าง ยกและยืดเหยียด”

  • พูดคุย ทำสวน คลายเหงา

ความเหงากับคนสูงอายุเป็นของคู่กัน หากความเหงาอยู่นานจนเรื้อรัง เส้นชัยที่อายุร้อยปี ก็ไม่มีวันไปถึง คุณยายมาร์จมีวิธีคลายเหงาและสร้างอารมณ์ด้านบวกให้กับตัวเอง

“แน่นอนว่ายายต้องเหงาเป็นธรรมดา และบางครั้งก็คิดถึงคนที่จากไปแล้ว แต่ดีที่ยายคติประจำใจอยู่ว่า คนแปลกหน้าคือเพื่อนใหม่ และไม่รีรอที่จะทักทายหรือพูดคุยกับทุกๆ คน วิถีชีวิตแบบนี้ทำให้ยายไม่ต้องไปดูหนังหรือเต้นรำ เพราะมีเพื่อนมากมายอยู่ในละแวกนี้อยู่แล้ว”

นอกจากนี้การทำสวนดูจะเป็นยาวิเศษของคุณยายอีกขนานหนึ่ง เพราะเติมเต็มความสุขให้คุณยายมาร์จมากว่า 20 ปี คุณยายมาร์จชี้ชวนชมสวนที่ปลูกขึ้นเองเมื่อตอนอายุ 80

“มาดูอะไรนี่ ข้าวโพดออกฝัก นี่เป็นครั้งแรกที่ยายปลูกข้าวโพด นี่มะเขือเทศ ดูสิ สุกลูกหนึ่งแล้ว มีดอกไฮเดรนเยียด้วย และนั่นก็ดอกกุหลาบ”

เราท่องไปดูวิถีชีวิตที่ช่วยคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวจนอยู่ได้ร้อยปีจากทั่วโลกกันแล้ว พอจะสรุปได้ตรงกันไหมคะว่า วิถีชีวิตที่ถอยห่างจากธรรมชาติ จนสุขสบายเหลือล้นนั่งกินนอนกิน ไม่ใช่คำตอบของการมีสุขภาพที่ดี

ในทางกลับกัน การมีชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติ การทำงานอย่างสมดุลในทุกช่วงชีวิต และการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง กลับช่วยสร้างคุณภาพชีวิตและคุณค่าให้กับชีวิตมหาศาล

ทำได้แบบนี้ จะเสกตัวเองให้หนุ่มสาวขึ้นอีกสัก 10-20 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ใช่ไหมละคะ