น.พ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านั้น ครอบคลุมการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ แต่การที่จะให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้อย่างถ้วนหน้าและมีคุณภาพนั้น ต้องมีการจัดระบบบริการ การใช้ระบบการเงินการคลังที่เอื้อต่อโรงพยาบาลที่ให้บริการ และการออกแบบระบบร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการ ซึ่งผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์นั้นสามารถเข้าถึงการได้รับยาต้านไวรัสและยาอื่นๆ การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อติดตามการรักษา การให้คำปรึกษาและการตรวจเลือดแบบสมัครใจ การป้องกันการแพร่กระจายโรคจากผู้ป่วย และการส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับยาต้านอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการพัฒนาระบบบริการด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีลงทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 280,469 คน (จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนทุกสิทธิ์ 352,956 คน คิดเป็น 79.5%) ในจำนวนนี้รับยาต้านไวรัส 169,792 คน และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรับยาต้านยังคงเสียชีวิตเฉลี่ยเดือนละ 400 ราย ซึ่งเป็นอัตราคงที่ ต่างจากอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มที่ไม่ได้รับยาต้าน ซึ่งมีอัตราเสียชีวิตสูงและมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยในปี 2555 กลุ่มที่ไม่ได้รับยาต้านเสียชีวิต 16.5% ขณะที่กลุ่มที่ได้รับยาต้านเสียชีวิต 2.4% ข้อมูลนี้สะท้อนว่าการออกแบบระบบบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าโดยเน้นการคัดกรองผู้ติดเชื้อรายใหม่และให้ยาต้านไวรัส ช่วยลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นจากการให้บริการยังพบว่าสถานการณ์เชื้อดื้อยายังน่าเป็นห่วงเนื่องจากมีอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ได้รับยาต้านไวรัสสูตรที่ 2 ซึ่งบ่งบอกว่าดื้อยาสูตรพื้นฐาน เพิ่มขึ้นจาก 5.8% ในปี 2551 เป็น 11.5% ในปี 2555
น.พ.วินัย กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ สปสช.ได้จัดทำเป้าหมายและทิศทางการดำเนินงานในปี 2557 ซึ่งจะเน้นการบูรณาการงานป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั้ง 3 กองทุนสุขภาพ โดยจะนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ซึ่งจะมุ่งเน้นการรักษาแต่เนิ่นๆ (Early treatment) ยุทธศาสตร์การใช้ยาต้านไวรัสในประเทศไทย เน้นการรักษาและการป้องกัน (treatment as prevention) นอกจากนั้นจะมีการจัดทำมาตรฐานการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อฉบับปรับปรุงใหม่ปี 2557 การเพิ่มสิทธิประโยชน์การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การทราบผลตรวจใน 1 วัน การเพิ่มยาในระบบหลักประกันสุขภาพ ทั้งยาอะโทวาสแตติน (Atorvastatin) สำหรับรักษาไขมันในเลือดผิดปกติในกลุ่มผู้ได้รับยาต้าน ยาอะทาซนาเวียร์ (Atazanavir) สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีไขมันในเลือดสูง และยาดารูนาเวียร์ (Darunavir) เป็นยาต้านไวรัสสูตร 3 สำหรับผู้ติดเชื้อที่ดื้อยา--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 21 มิถุนายน 2556
- 5 views