ต่างชาติจ้องหุ้นร.พ.จุฬารัตน์ มิ.ย.โรดโชว์ฮ่องกง-สิงคโปร์

หุ้นไอพีโอป้ายแดง"โรงพยาบาลจุฬารัตน์"เนื้อหอม นักลงทุนสถาบันรุมทึ้ง ปลายมิ.ย.โรดโชว์ฮ่องกง สิงคโปร์  ผู้บริหารคาดรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนปิดตัวเลข 1.87 พันล้าน  เดินหน้าสร้างโรงพยาบาลต่างจังหวัด

นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ธนชาต จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่ายหุ้นบริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์  จำกัด(มหาชน)(บมจ.) เปิดเผยว่าสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทจะนำโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ไปนำ เสนอข้อมูล(โรดโชว์)ที่ประเทศฮ่องกง และสิงคโปร์ เพื่อชี้แจงข้อมูลให้กับนักลงทุนต่างชาติที่มีความสนใจ โดยหุ้นของบริษัทดังกล่าวได้กระจายให้กับนักลงทุนสถาบัน 60% ส่วนอีก 40 % เสนอขายนักลงทุนรายย่อย

ด้านน.พ.กำพล พลัสสินทร์ ประธานกรรมการ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2556 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.87 พันล้านบาท และกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ  336 ล้านบาท ปัจจัยหนุนรายได้และกำไรมาจากทิศทางการเติบโตของจำนวนคนไข้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงคนไข้ที่ถือบัตรประกันสังคมที่มี 3.05 แสนคน ที่สร้างรายได้คงที่ให้บริษัทที่ 2.3 พันล้านบาทต่อปี คิดเป็น 55% ของรายได้รวม

นอกจากนี้บริษัทเตรียมแผนสร้างโรงพยาบาลใหม่อีก 1 แห่งในต่างจังหวัดช่วงระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยเน้นทำเลจังหวัดที่ยังขาดแคลนโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งชุมชนที่มีประชาชนจำนวนมากขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนเตียงทั้งหมด 380 เตียง มีแผนเพิ่มอีกประมาณ 150 เตียง

บทวิเคราะห์บล.เกียรตินาคินฯแนะนำ"ซื้อ"หุ้นโรงพยาบาลจุฬารัตน์ โดยให้เหตุผลว่าปัจจัยพื้นฐานน่าสนใจลงทุนเนื่องจากมีเครือข่ายการให้บริการโรงพยาบาล 10 แห่งครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก รวมถึงจ.สมุทรปราการ และจ.ฉะเชิงเทรา เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง จุดเด่นที่ตั้งยังครอบคลุมเส้นทางรถยนต์ที่มีอุบัติเหตุสูง ทำให้ได้ประโยชน์จากการเป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน

อนึ่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) จำนวน 220 ล้านหุ้น ราคา 6.30 บาท/หุ้น  ได้เงินจากการระดม 1.35 พันล้านบาท มีแผนนำไปใช้ขยายกิจการโรงพยาบาลสำหรับปี 2556-2559 ประมาณ 950 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 396 ล้านบาทใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 26 - 29 พ.ค. 2556