ฮูจี้โลกวางแผนฉุกเฉินรับมือไวรัส

องค์การอนามัยโลกเตือนโลกยังไร้ความพร้อมที่ดีพอในการรับมือการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ จี้กำหนดแผนรับมือฉุกเฉิน หวั่นไวรัสกลายพันธุ์ทำติดต่อจากคนสู่คนได้ง่าย เผยจีนควบคุมการระบาดของไวรัส เอช7 เอ็น9 ได้แล้ว หลังทำเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 6.5 พันล้าน

นายเคอิจิ ฟุคุดะ รองผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ฮู) กล่าวเตือนในที่ประชุมฮูที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ว่า โลกยังไม่มีการเตรียมพร้อมที่ดีพอกับการรับมือสถานการณ์ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ท่ามกลางความวิตกว่าไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช7 เอ็น9 ที่ระบาดในประเทศจีนขณะนี้อาจกลายพันธุ์สู่รูปแบบที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ง่ายๆ

รองผู้อำนวยการฮูกล่าวว่า แม้จะมีความพยายามอย่างเต็มที่นับแต่พบการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช1 เอ็น1 ในช่วงปี 2552-2553 แต่โลกยังไม่มีความพร้อมมากพอที่จะรับมือกับการระบาดครั้งใหญ่ ซึ่งแผนการรับมือฉุกเฉินถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเราไม่สามารถที่จะไปนั่งดูตำราเพื่อดูว่าจะทำอะไรได้บ้างเมื่อเกิดการระบาดของโรคภัยต่างๆ ขึ้น ซึ่งความพยายามดังกล่าวมักสะดุดเพราะการขาดความรู้ความเข้าใจในโรคต่างๆ ที่ดีพอ

นายฟุคุดะยังกล่าวถึงสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัส เอช7เอ็น9 ที่คร่าชีวิตชาวจีนไปแล้ว 35 ราย และมีผู้ติดเชื้ออีก 130 คน นับแต่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ครั้งแรกในจีนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า จีนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ไวรัสดังกล่าวจะไม่ได้หายไปได้ง่าย ซึ่งเราจำเป็นจะต้องรอดูในช่วงฤดูกาลอื่นๆ ต่อไป

เช่นเดียวกับนางหลี่ ปิน รัฐมนตรีสาธารณสุข จีน ที่รายงานสถานการณ์การระบาดของ ไวรัสเอช7เอ็น9 ในจีนให้ที่ประชุมรับทราบว่า ทางการจีนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดยยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิดขึ้น ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ามาตรการป้องกันและควบคุมที่รัฐบาลทำอยู่นั้นมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ยังมีความน่าห่วงกังวลอยู่ เนื่องจากยังมีความรู้ความเข้าใจในเชื้อไวรัสและโรคต่างๆ ที่จำกัด จึงจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังด้วยแผนรับมือฉุกเฉิน

ด้านนางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการฮู กล่าวว่า หลังจากผ่านประสบการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโรคระบบทางเดินทางหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ที่สร้างความหวาดผวาไปทั่วโลกเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งเกิดระบาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก รัฐบาลจีนก็ได้ลงทุนอย่างมากในการปรับปรุงขีดความสามารถในการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสให้ดีขึ้น ซึ่งเราได้เห็นประโยชน์ของการลงทุนดังกล่าวในวันนี้ และว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ใดๆ ที่ทำให้มนุษย์ติดเชื้อมีขีดความสามารถมากพอที่จะกลายเป็นภัยคุกคามต่อสาธารณสุขโลกได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในแวดวงที่เกี่ยวข้องกำลังศึกษาเพื่อดูว่าเชื้อไวรัสเหล่านี้แพร่สู่คนได้อย่างไร ท่ามกลางความห่วงวิตกว่าเชื้อไวรัสเหล่านี้อาจกลายพันธุ์ไปสู่รูปแบบที่ทำให้เกิดการติดต่อจากคนสู่คนได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ จีนได้รับคำชมจากการดำเนินมาตรการรับมือการระบาดของไวรัส เอช7 เอ็น9 โดยมีการปิดตลาดค้าสัตว์ปีกในพื้นที่พบการระบาดในทันที จนทำให้ควบคุมสถานการณ์ระบาดได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ได้ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจของจีนที่เป็นผลมาจากที่การระบาดของไวรัส เอช7 เอ็น9 ว่ามีมูลค่ามากกว่า 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เอเอฟพี/รอยเตอร์)

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 23 พฤษภาคม 2556