ดีเอสไอสรุปสำนวนคดีทุจริตจัดซื้อยางพาราฯ ส่งป.ป.ช.ฟัน "หมอวิทิต" ฮั้วประมูล-ละเว้น ส่วน "หมอวิชัย" โดย ม.157 ด้วยเจ้าตัวไม่กังวลย้อนไม่ได้ทำผิด
ความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดซื้อวัตถุดิบผลิตยาพาราเซตามอลของ อภ. ล่าสุดเมื่อวันที่30 เมษายน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกรณี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสตรวจสอบการจัดซื้อวัตถุดิบยาพาราเซตามอลปนเปื้อนขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) 2 ลอตจำนวน 148 ตัน โดยระบุว่าอาจมีการทุจิตในการจัดหาผู้ขายและการตรวจรับวัตถุดิบนั้น โดยผลสอบสวนปรากฏพยานหลักฐานน่าเชื่อว่ามีลักษณ์การกระทำเข้าข่ายความผิดความ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 และมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้อง คือ นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการ อภ. และนพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม
“อภ.หยุดผลิตยาพาราฯ มาหลายปีแล้ว แต่อ้างภาวะน้ำท่วมสั่งสำรองวัตถุดิบเพื่อผลิต โดยไม่มีแผนการผลิตและไม่กำหนดสถานที่จัดเก็บนอกจากนี้การจัดซื้อวัตถุดิบผลิตยายังจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ เข้าข่ายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายเดียว และทำให้ไม่เกิดการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมทำให้รัฐเสียประโยชน์" นายธาริต ระบุ
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ในส่วนความผิดของนพ.วิชัย เข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะประธานบอร์ดรับทราบเรื่องการสั่งซื้อเพื่อสำรองวัตถุดิบเพื่อผลิตยาแต่ไม่ทักท้วงหรือเข้ามากำกับดูแลให้มีสายการผลิตที่ชัดเจน จึงเข้าข่ายมีความผิด 157 แต่ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล เพราะบอร์ดไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ดีเอสไอจึงสรุปสำนวนส่งให้คณะกรรมป้องกันและปราบปรมการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ยังได้รายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นจำนวน 16 แผ่นให้ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข นำไปพิจารณาเพื่อดำเนินการในทางบริหารภายในกระทรวงต่อไป
"ขอชี้แจงว่า การสรุปผลการตรวจสอบเบื้องต้น เป็นเพียงความเห็นในชั้นสืบสวน ส่วนผลการตรวจสอบกรณีการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่ ยังไม่สามารถสรุปผลได้คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์" นายธาริต กล่าว
ด้าน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า ได้รับหนังสือดังกล่าวจากดีเอสไอแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านในรายละเอียด
ขณะที่ นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ได้ชี้แจงเรื่องต่างๆ ต่อดีเอสไอไปหมดแล้ว และทางดีเอสไอยังระบุว่าไม่เกี่ยวข้องกับตน โดยเฉพาะเรื่องยาพาราเซตามอล เพราะเป็นเรื่องการบริหารการใช้งบการจัดซื้อ แต่หากมีการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ชก็คงต้องปล่อยไปตามขั้นตอน เพราะดีเอสไอไม่ใช่จุดสุดท้าย แต่เป็นเพียงการส่งเรื่องเท่านั้น ซึ่งขั้นตอน ป.ป.ช.ก็มีอีกมาก ทั้งขั้นอัยการการขึ้นศาล ทั้งหมดก็ให้มีการพิจารณาตามข้อเท็จจริง เมื่อไม่ผิดก็ไม่กังวล
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 1 พฤษภาคม 2556
- 11 views