"BGH" ย้ำเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน ลั่นนโยบายเมดิคัลฮับ ยกเว้นวีซ่า 90 วัน ดึงลูกค้ากลุ่มอาหรับแห่ใช้บริการทะลัก เดินหน้าลุยขยายโรงพยาบาลเพิ่มไม่หยุด เชื่อสิ้นปีนี้มีครบ 33 แห่ง
นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-การแพทย์ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดปี 2556 ทางบริษัทได้ประเมินการเติบโตของอัตรารายได้ไว้ที่ 10% เมื่อเทียบกับงวดปี 2555 เพราะมีปัจจัยหนุนมาจากปริมาณการใช้บริการของลูกค้าต่างชาติและลูกค้าในประเทศได้เพิ่มขึ้นระดับสูงต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าต่างประเทศประมาณ 40-50% เมื่อเทียบกับรายได้รวม และที่เหลือเป็นลูกค้าในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม แม้อัตราการใช้บริการของลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ทาง BGH จะพยายามคงสัดส่วนให้ไม่เกิน 50% เนื่องจากต้องการรักษาความสมดุลของสัดส่วนฐานลูกค้า
สำหรับปัจจัยดึงดูดให้ลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการกับทางกลุ่มโรงพยาบาล BGH เป็นเพราะว่าประเทศไทยมีศักยภาพทางการแพทย์อยู่ในระดับแนวหน้า และมีจุดเด่นในด้านการให้บริการ ซึ่งสามารถท่องเที่ยวภายในประเทศควบคู่ไปกับการรักษาได้อีกด้วย
อีกทั้งหลังจากทางภาครัฐได้ออกนโยบายเมดิคัลฮับ ยังส่งผลให้ทางบริษัทได้รับการใช้บริการจากลูกค้ากลุ่มอ่าวอาหรับ หรือจีซีซี เพิ่มขึ้นจำนวนมาก เพราะสามารถพักอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลานานถึง 90 วัน ซึ่งจากสถิติของผู้ป่วยชาวอาหรับที่เข้ามารักษาในโรงพยาบาลกรุงเทพ มีสัดส่วนคิดเป็น 32% ของยอดรวมลูกค้าต่างชาติทั้งหมด
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวดปี 2555 ที่ผ่านมา BGH มีรายได้รวมทั้งสิ้น 48,829.82 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7,936.95ล้านบาท ส่วน 6 ประเทศในกลุ่มจีซีซี ประกอบไปด้วย สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ รัฐกาตาร์ รัฐสุลต่านโอมาน ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย รัฐคูเวต และราชอาณาจักรบาร์เรน
นายแพทย์ชาตรี เปิดเผยต่อว่า สำหรับลูกค้ากลุ่มจีซีซีที่เข้ามาใช้บริการสูงสุดขณะนี้ อันดับหนึ่ง คือ ยูเออี อันดับสอง กาตาร์ อันดับสาม คูเวต ส่วนกลุ่มลูกค้าในพื้นที่อาเซียน โดยลูกค้าหลักยังอยู่ในบริเวณ AEC ตอนบน เช่น พม่า และลาวเป็นหลัก ขณะที่ประชากรในมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ส่วนใหญ่จะรักษาในพื้นที่เป็นหลัก เพราะมีความคุ้นเคยทางวัฒนธรรมมากกว่า
ส่วนแผนการขยายโรงพยาบาลในเบื้องต้นประเมินว่า ภายในช่วงปี 2558 ทาง BGH จะมีโรงพยาบาลทั้งหมดในเครือเกิน 50 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 30 แห่ง และภายในสิ้นปี 2556 จะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 33 แห่ง ซึ่งแผนการขยายโรงพยาบาลนับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเพิ่มฐานลูกค้าบริษัทให้เติบโตมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถรองรับการเปิด AEC ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ด้านกรณีทางบริษัทได้ประสบความสำเร็จจากการเปิดคลินิกบริการผู้ป่วยชาวอาหรับ หรือ AMS มาเป็นระยะเวลายาวนานแล้วถึง 7 ปี เป็นเพราะมีจุดเด่นหลักอยู่ที่รูปแบบการให้บริการครบวงจร เพราะมีการเตรียมความพร้อมรอบด้านทั้งในส่วนของอุปกรณ์และบุคลากรแพทย์ มีล่ามที่เชี่ยวชาญภาษาพร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง
รวมทั้งตอบสนองตรงต่อลักษณะวัฒนธรรม เช่น จัดห้องปฏิบัติศาสนกิจ กิจกรรมละหมาดวันศุกร์ เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในอนาคตทางบริษัทยังได้วางแผนที่จะพัฒนาศูนย์บริการผู้ป่วยอารบิค เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ต่อปี
ที่มา : นสพ.ข่าวหุ้น วันที่ 5 เมษายน 2556
- 3 views