ดีเอสไอบุกตรวจโกดังเก็บยาพาราฯ เขตราษฎร์บูรณะ ตามลายแทงระบุพบสารปนเปื้อนในวัตถุดิบผลิตยา
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจพบความไม่ปกติการประมูลก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท เนื่องจากมีบริษัทเดียวยื่นซองประกวดราคาสร้างอาคารส่วนที่ 1 มูลค่า 321 ล้านบาท ทั้งๆ ที่มีบริษัทซื้อแบบเป็น 10 ราย อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) นั้น
เมื่อวันที่ 4 เมษายน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในอดีตเป็นอย่างไรไม่ทราบ ทราบเพียงการก่อสร้างโรงงานดังกล่าวล่าช้า ที่ผ่านมาได้ให้คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ชี้แจงรายละเอียดแต่ไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน ไม่มีรายละเอียดของการแบ่งการจัดซื้อใดๆ แม้แต่รายละเอียดเกี่ยวกับความล่าช้าที่มาจากการเปลี่ยนแบบการก่อสร้างหรือเพิ่มเติมใดๆ ก็ไม่มีการชี้แจงว่า เปลี่ยนแปลงเพราะอะไร และมีหลักฐานความจำเป็นอย่างไร ด้วยเหตุนี้จึงต้องส่งเรื่องให้ดีเอสไอตรวจสอบ ตามที่ดีเอสไอระบุว่าพบความผิดปกติของบริษัทยื่นซอง อาจมาจากการตรวจสอบ ตรงนี้ก็อยู่ที่การชี้แจงของ อภ.เอง
"ผมมองว่าเป็นเรื่องดีที่ปัญหาจะได้กระจ่าง อะไรที่สงสัย อภ.ก็ต้องชี้แจงไป อย่างมีคนมองว่าผมเสนอเรื่องให้ดีเอสไอเพื่อต้องการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการ อภ. ผมไม่เคยพูดเลย และเป็นเรื่องนี้จะเป็นโอกาสที่ดีให้ผู้อำนวยการ อภ. ได้ชี้แจงประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกต แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เห็นออกมาเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจน ทั้งๆ ที่ควรเปิดเผย บอกมาเลยว่าปัญหาเกิดจากอะไร หากบริษัททำงานช้า ผิดสัญญา มีการจัดการบริษัทหรือไม่ เมื่อทุกอย่างชัดเจน ปัญหาก็จบ" นพ.ประดิษฐกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า บางกระแสมองว่า การตั้งข้อสงสัยปัญหาความล่าช้าว่าเกี่ยวข้องกับความไม่โปร่งใส จะส่งผลต่อการก่อสร้างโรงงานให้ล่าช้าโปร่งใส จะส่งผลต่อการก่อสร้างโรงงานให้ล่าช้าหรือไม่ นพ.ประดิษฐกล่าวว่า ไม่คิดเช่นนั้น การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นให้โรงงานยิ่งเดินหน้า แต่จะทำให้จบเร็วขึ้น แต่หากไม่ดำเนินการใดๆ อาจจะยิ่งล่าช้าออกไปก็เป็นได้
ส่วนกรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรมไม่พอใจและยังเดินหน้าเตรียมแจ้งความดำเนินคดีรัฐมนตรี สธ. ที่ส่งผลให้ อภ.เสียหาย นพ.ประดิษฐกล่าวว่า ในฐานะรัฐมนตรี สธ. โดยได้แสดงความรับผิดชอบแทนเลขานุการรัฐมนตรี สธ. กล่าวขอโทษ เพื่อประนีประนอมแล้ว คิดว่าทุกอย่างน่าจะเข้าใจกันได้ว่า อาจมาจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน จนทำให้เข้าใจเช่นนั้น แต่หากสหภาพยังยืนยันฟ้องร้อง ก็สุดแล้วแต่ เพราะคงไม่สามารถห้ามหรือทำอะไรได้
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานบอร์ด อภ. กล่าวถึงกรณีสหภาพ เตรียมส่งเรื่องถึงบอร์ด อภ.ให้แจ้งความดำเนินคดีฐานทำ อภ.เสียหาย ว่า หากมีการส่งเรื่องมา คงไม่สามารถบอกได้ว่าจะดำเนินการแจ้งความหรือไม่อย่างไร เนื่องจาก อภ.มีกระบวนการตามขั้นตอนอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง ไม่ว่าจะมีเรื่องใดก็ตาม เมื่อมีการส่งเรื่องขึ้นมาก็จะส่งมอบให้ฝ่ายปฏิบัติ คือผู้อำนวยการ อภ.นำไปพิจารณาต่อ จะมีนิติกรหรือฝ่ายกฎหมายต่างๆ พิจารณาข้อเท็จจริงแนวทางและข้อเสนอขึ้นมายังบอร์ด อภ.อีกครั้ง ดังนั้น ยังบอกอะไรไม่ได้ ต้องรอกระบวนการที่ถูกต้องก่อน
นายระวัย ภู่ผะกา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า สหภาพมีข้อสรุปว่าจะยื่นฟ้องผ่านการประชุมใหญ่วิสามัญ ยืนยันว่าจะดำเนินการตามกระบวนการ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ อภ.อย่างมาก ทำให้ อภ.ขาดความน่าเชื่อถือ ทั้งที่ อภ.มีการพัฒนามาตรฐานมาโดยตลอด จนจะได้มาตรฐานขั้นสูงในการผลิตยาแล้ว จึงต้องมีผู้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ส่วนการสวมชุดดำประท้วงที่ สธ. จะพิจารณาอีกครั้ง
ขณะที่ นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการ อภ. กล่าวถึงกรณีดีเอสไอตั้งข้อสังเกตเรื่องบริษัทรายเดียวเสนอราคา ว่าเรื่องนี้คงต้องไปดูในรายละเอียด หากดีเอสไอเรียกดูข้อมูลก็พร้อมชี้แจง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก ยังคงเดินหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาในการปรับเปลี่ยนแบบเพิ่มเติม เบื้องต้นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็นที่ปรึกษาได้คำนวณแล้วไม่เกิน 45 ล้านบาท แต่ทางบริษัทรับเหมาต่อรองไว้ 59 ล้านบาท ตรงนี้จึงต้องเจรจาให้ได้ราคาตามบริษัทที่ปรึกษา
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนการยกระดับเทคโนโลยีผลิตวัคซีนฯ ได้มีการตกลงในทีโออาร์ตั้งแต่ทำสัญญาหรือไม่ นพ.วิทิตกล่าวว่า ในสัญญาตั้งแต่ต้นมีข้อเสนอไว้อยู่แล้วว่า บริษัททีโออาร์ตั้งแต่ทำสัญญาหรือไม่ นพ.วิทิตกล่าวว่า ในสัญญาตั้งแต่ต้นมีข้อเสนอไว้อยู่แล้วว่า บริษัทที่ได้ต้องมีการทบทวนแบบเพราะไม่มีทางที่แบบที่เสนอไว้ตั้งแต่แรกจะสมบูรณ์ อาจต้องมีการปรับแก้ เนื่องจากบริษัทต้องมีการรีวิวรีไซน์ จึงเป็นเรื่องที่มีอยู่ในสัญญาแต่ต้นอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงแรม คามิโอคลาสสิค อ.เมืองระยอง นพ.ประดิษฐ เดินทางไปเป็นประธานเปิดการอบรมประชุมเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย วิทยาลัยแพทยศาสตร์ สถาบันร่วมผลิตแพทย์ กรมการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต ครั้งที่ 48 ได้ให้สัมภาษณ์กรณีสหภาพแรงงานฯ อภ.ไม่พอใจนายกมล บันไดเพชร เลขานุการรัฐมนตรี สธ. ที่ไปพูดทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น ได้สอบถามนายกมลแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้พูดให้เข้าใจ อภ.ขายยาปลอมปน
"เท่าที่ตรวจสอบมีการปนเปื้อนสารมาเราก็ไม่สบายใจ ข้อกังวลของประชาชนมันชัดเจน ส่วนเรื่องของปนเปื้อนไม่กล้านำไปใช้ก็ต้องส่งคืน ไม่มีอะไร ทางสหภาพแรงงานฯน่าจะเข้าใจว่าเรากำลังจะทำความจริงให้ปรากฏ เมื่อความจริงทุกอย่างถูกต้อง องค์กรจะได้รับความเชื่อถือต่อไป เป็นการชำระองค์กรให้ดีขึ้น อย่าให้องค์กรอยู่ในสภาวะอึมครึม มีแต่เสียงข้อครหา ถ้าปล่อยให้อยู่ในข่าวลือไม่มีคนมาชี้แจง จะเป็นผลลบต่อองค์กรมากกว่า" นพ.ประดิษฐกล่าว
นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ รอง ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 เมษายน เวลา 10.00 น. จะลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บยาพาราเซตามอลในเขตราษฎร์บูรณะ กทม. โกดังดังกล่าว ได้รับการร้องเรียนว่ามีการเก็บวัตถุดิบในการผลิตยาพาราเซตามอลจำนวน 10 ตัน ที่เภสัชกรรมทหารนำไปผลิตและพบว่ามีการปนเปื้อน
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 5 เมษายน 2556
- 1 view