บทนำมติชน: สะสางปัญหาคอมพ์

สัญญาว่าจ้างบริษัท เอสโอเอ คอนซอร์เตียม จำกัด ดำเนินการระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศแรงงาน ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) วงเงิน 2,300 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2555 โดยไม่มีการต่อสัญญา ผลที่เกิดขึ้นตามมา คือสำนักงานประกันสังคมหลายจังหวัด ไม่สามารถเปิดใช้ข้อมูลผู้ประกันตนในระบบคอมพิวเตอร์ ในการยื่นขอสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน และกองทุนเงินทดแทนได้

โครงการว่าจ้างเอกชน วางระบบคอมพิวเตอร์ สปส.นี้ ปรากฏเป็นข่าวใหญ่มาแล้วในอดีต โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีมติชี้มูลความผิดนายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สปส.ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในการทำสัญญาเช่าจัดหาและดำเนินการระบบงานเทคโนโลยี สารสนเทศแรงงาน จากนั้นจึงมีการปรับลดขนาดลงจากเดิมกำหนดวงเงินงบประมาณไว้ 2,900 ล้านบาท เหลือเพียง 2,300 ล้านบาท

นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่าก่อนหน้าการสิ้นสุดสัญญา มีผู้บริหาร สปส.และเจ้าหน้าที่เข้าพบ เสนอให้ต่อสัญญาว่าจ้างระบบคอมพิวเตอร์ กับบริษัท เอสโอเอ คอนซอร์เตียม จำกัดออกไปอีก 3 เดือน ในวงเงิน 80 ล้านบาท แต่เห็นว่าไม่เหมาะสมหลายประการ และระบบเดิมมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อข้อมูลจึงไม่อนุมัติ นอกจากนี้ยังแสดงความแปลกใจที่มีการปล่อยให้คอมพิวเตอร์ใช้งานไม่ได้ ว่าเหตุใดคณะกรรมการประกันสังคมจึงไม่เตรียมการรองรับ และปล่อยให้บริษัทเป็นผู้เก็บฐานข้อมูลไว้แต่เพียงฝ่ายเดียว

การจ้างเอกชน วางระบบคอมพิวเตอร์ สปส.นี้ เป็นโครงการจัดเก็บฐานข้อมูล ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 10 ล้านคน เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาอันรวดเร็ว ขณะนี้ล่วงเลยระยะสิ้นสุดสัญญามากว่า 2 สัปดาห์แล้ว ปรากฏว่าการแก้ไขก็ยังไม่สำเร็จลุล่วง จึงเป็นที่หวั่นวิตก อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนในวงกว้าง แม้ว่านายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการ สปส. จะยืนยัน ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกันหรือกองทุนประกันสุขภาพ ผู้ประกันตนยังสามารถขอใช้สิทธิกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร และชราภาพได้ เนื่องจากสำรองข้อมูลและประวัติไว้แล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สะท้อนภาพความอ่อนด้อยในการบริหารจัดการอย่างชัดเจน กระทรวงแรงงาน และโดยเฉพาะ สปส. จึงไม่ควรแสดงความพึงพอใจที่ปัญหาคอมพิวเตอร์ไม่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อผู้ประกันตนเท่านั้น หากแต่ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงออกมาให้ได้ว่า เหตุใดเมื่อรู้ล่วงหน้าสัญญาจะสิ้นสุดลง สปส.จึงเพิกเฉย ไม่เตรียมการวางแผนรองรับ จัดระบบข้อมูลขึ้นมาใหม่ เรื่องนี้มี อะไรแอบแฝง หรือว่าเป็นเรื่องประสิทธิภาพการบริหาร ที่ฝ่ายผู้เกี่ยวข้องไม่มีความกระตือรือร้นในการแก้ปัญหาเท่าที่ควร เมื่อผลออกมาเป็นประการใดแล้ว จะได้นำมาแก้ไขข้อบกพร่อง หรือดำเนินการทางปกครองเป็นตัวอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นมาอีกในอนาคต

--มติชน ฉบับวันที่ 19 ม.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--