เอฟทีเอ วอทช์ จี้กรมเจรจาฯ เปิดรับฟังความ คิดเห็นร่างกรอบเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู ตั้งข้อสงสัยอยากเริ่มเจรจาให้ได้ภายในเดือนนี้ แต่ไม่ยอมเปิดเผยร่างกรอบฯ ด้าน 14 องค์กรภาคประชาชนทำหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบกระบวนการจัดทำการเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป

นายจักรชัย โฉมทองดี ผู้ประสานงานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ วอทช์) เปิดเผยว่า ตามที่นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ระบุว่าในเดือนม.ค.นี้ ฝ่ายไทยจะสามารถประกาศเปิดการเจรจาเอฟทีเอ ไทย-อียู อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ได้จัดทำกรอบการเจรจาในการเปิดเสรีเสร็จแล้ว เพื่อให้การเจรจาแล้วเสร็จภายใน 2 ปี มีผลบังคับใช้ปี 2558 จะได้ช่วยทดแทน หากไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี)ในปี 2557 นั้น เห็นว่าในเมื่อกรมเจรจาฯชี้แจงว่ากรอบเจรจาฯเสร็จสิ้นแล้ว ก็ควรเปิดเผยต่อสาธารณชน เพราะตั้งแต่ผ่านคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ร่างกรอบเจรจาฯดังกล่าวยังถูกปิดเป็นความลับ ซึ่งหากยังปิดเป็นความลับเช่นนี้ ใครจะไปให้ความเห็นหรือข้อกังวลตามที่กรมเจรจาฯประกาศได้

"เมื่อมีกรอบเจรจาฯแล้ว ก็ควรจัดรับฟัง ความคิดเห็นในส่วนกลาง 1 ครั้งก่อนนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาตามมาตรา 190 เพราะไม่ใช่ทุกภาคส่วนจะสามารถเข้าถึงผู้ใหญ่ในกรมเจรจาฯได้ จึงควรจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกรอบเจรจาฯ ไม่ควรห่วงแต่ภาคธุรกิจ หากกรมเจรจาฯไม่เปิดเผยกรอบ ก็ไม่สามารถแสดงความกังวล-ข้อคิดเห็นที่จะนำไปสู่การเตรียมความพร้อมและพัฒนาท่าทีการเจรจาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาควรมีเวลาเพียงพอที่จะศึกษาร่างกรอบเจรจาและการศึกษาที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเอฟทีเอกับสหภาพยุโรปนี้ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง"นายจักรชัยกล่าว

ด้าน น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล สมาชิก เอฟทีเอ วอทช์ กล่าวว่า ทั้ง14 องค์กรภาคประชาสังคมที่ติดตามเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ส่งผลกระทบด้านต่างๆได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบกระบวนการจัดทำการเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (Thai-EU FTA) โดยที่เครือข่ายประชาชน ได้ติดตามตรวจสอบเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด พบว่ากระบวนการจัดทำการเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ที่ดำเนินการโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนการเจรจาหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ ที่กำหนดไว้ใน มาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุให้คณะรัฐมนตรีจะต้องให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนเสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ

นอกจากนี้ร่างกรอบเจรจาฯไม่เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลประกาศต่อรัฐสภา ที่ระบุว่า มีนโยบายขยายความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการตลาดภายใต้กรอบความร่วมมือและข้อตกลงการค้าเสรีในระบบพหุภาคีและทวิภาคี โดยเร่งรัดการใช้ประโยชน์จากความตกลงที่มีผลบังคับใช้แล้ว พร้อมทั้งวางแนวทางป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้น กำหนดมาตรการในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อเตรียมพร้อมในการพัฒนาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ และมาตรฐานต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การไม่มีแนวป้องกัน หรือการเตรียมมาตรการใดๆรองรับให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากข้อตกลงการค้าเสรีที่จะมีขึ้น นอกจากนี้ยังไม่มีการวางแนวป้องกันผล กระทบที่จะเกิดกับระบบสาธารณสุขของไทย เมื่อมีกรอบเจรจาฯแล้ว  ก็ควรจัดรับฟังความคิดเห็น

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 8 มกราคม 2556