รมว.สธ.แจงบรรจุพยาบาลวิชาชีพที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวเป็นขรก.ต้องใช้เวลา

รมว.สธ. เร่งทำความเข้าใจพยาบาลทั่วประเทศ ถึงการออกระเบียบพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ชี้เป็นมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราวระหว่างรอบรรจุเป็นข้าราชการ ไม่ใช่ให้ดำรงตำแหน่งนั้นตลอดไป เพื่อให้ทุกคนทำงานด้วยความมั่นคงและมีความก้าวหน้าใกล้เคียงข้าราชการ

นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีข่าวที่กลุ่มพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว ขอบรรจุเป็นข้าราชการทั้งหมด 17,000 คน และไม่ยอมรับแนวทางการการเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (ก.สธ.) ว่า ล่าสุดนี้ จากการพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มพยาบาลหลายกลุ่ม ในเรื่องความตั้งใจของรัฐบาลที่จะบรรจุกลุ่มพยาบาลวิชาชีพที่เป็นลูกจ้าง ชั่วคราวเป็นข้าราชการ และพยายามหาตำแหน่งมาบรรจุให้เต็มทั้งหมด แต่จะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และใช้ระยะเวลา ในเบื้องต้นได้พยายามหาตำแหน่งมาบรรจุให้มากที่สุด โดยจะบรรจุให้กลุ่มลูกจ้างชั่วคราวที่ทำงานมาก่อนปี 2550 ให้ได้ทั้งหมดก่อน จากนั้นจะหาตำแหน่งมาบรรจุที่เหลือจนครบตามที่ต้องการ ซึ่งมีอีกประมาณ 30,000 คน

ขณะเดียวกัน ได้หาทางเลือกอื่นให้กลุ่มลูกจ้างทุกวิชาชีพที่ยังไม่ได้รับการบรรจุ โดยออกระเบียบพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นมาตรการเยียวยาระหว่างรอการบรรจุเป็นข้าราชการ ไม่ใช่ให้ดำรงตำแหน่งนั้นตลอดไป โดยจะได้รับสิทธิสวัสดิการต่างๆ มีความมั่นคงและความก้าวหน้าในวิชาชีพดีกว่าการเป็นลูกจ้างชั่วคราว และใกล้เคียงกับข้าราชการ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ดังนั้นคิดว่าพยาบาลหรือกลุ่มวิชาชีพใดๆ ไม่มีความจำเป็นต้องหยุดงานเพื่อเรียกร้องใดๆอีก

 “ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าการจะบรรจุเป็นข้าราชการพร้อมกันทั้ง 30,000 ตำแหน่งในทันที คงเป็นไปไม่ได้ และยังมีกลุ่มวิชาชีพอื่นๆที่ทำงานร่วมกัน และยังไม่ได้รับการบรรจุเช่นเดียวกับพยาบาลอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะต้องพิจารณาจัดสรรตำแหน่งให้ด้วย คิดว่าพยาบาลทุกคนมีเหตุมีผล เข้าใจข้อเท็จจริงที่ปรากฎ แต่อาจมีความวิตกกังวลเพราะเป็นปัญหาที่สะสมมานานหลายปี” นายแพทย์ประดิษฐกล่าว

ทั้งนี้ การพิจารณาหลักเกณฑ์ในการจัดสรรตำแหน่งเพื่อเป็นข้าราชการ กระทรวงสาธารณสุขได้เชิญผู้แทนทุกวิชาชีพที่เกี่ยวข้องมาร่วมดำเนินการ ในส่วนของพยาบาลวิชาชีพ ได้เชิญผู้แทนจากทั้งสภาการพยาบาล สมาคมพยาบาล สำนักการพยาบาล กลุ่มพยาบาลลูกจ้างชั่วคราว เพื่อให้มีส่วนร่วมในการจัดสรรตำแหน่ง รวมทั้งพิจารณาสวัสดิการต่างๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้ทำโดยพลการ เพื่อช่วยกันคลี่คลายปัญหาส่วนรวม เชื่อว่าพยาบาลทุกท่านคงเข้าใจ และรับผิดชอบหน้าที่ จะไม่หยุดงาน ละทิ้งคนไข้ เพื่อประท้วงหากไม่ได้รับการบรรจุพร้อมกันทั้ง 17,000 คน เพราะการดูแลคนไข้เป็นจุดมุ่งหมายของการทำงานและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ

นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อไปว่า มั่นใจว่ารูปแบบการแก้ไขปัญหากำลังคน รวมทั้งสิทธิสวัสดิการต่างๆ ที่กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการก่อนเดือนมกราคม 2556 จะเป็นที่พอใจของทุกคน ผู้บริหารทุกคนทำงานอย่างหนัก เพราะเป็นเรื่องสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข และเป็นหน้าที่ในการดูแลบุคลากร