สพศท.ลั่นเดินหน้าฟ้องกรมบัญชีกลางออก 3 ประกาศไม่เป็นธรรม ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยสิทธิสวัสดิการข้าราชการและแพทย์ เผยกำลังรวบรวมข้อมูลและระดมคนเพื่อยื่นฟ้องศาลปกครองหรือศาลยุติธรรม ยันกรมบัญชีกลางมีอำนาจคุมเงินการรักษาพยาบาลเท่านั้น ไม่ใช่ควบคุมยา
วานนี้ (22 ต.ค.) พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์แพทย์ โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป(สพศท.) กล่าวถึงกรณีการเตรียมฟ้องร้องกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังที่ออกประกาศไม่ชอบธรรม 3 ฉบับ คือ1.ผู้ป่วยโรคเรื้อรังสิทธิข้าราชการต้องลงทะเบียนระบบเบิกจ่ายตรง 1 โรคเรื้อรังต่อ 1 โรงพยาบาล มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ธ.ค.นี้ 2.การระบุเหตุผลการใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อใช้ประกอบการเบิกจ่าย มีผลวันที่1 ต.ค.ที่ผ่านมา และ 3.การห้ามเบิกค่ายากลูโคซามีนซัลเฟต มีผลวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งปลัดกระทรวงการคลังได้รับปากจะนำกลับไปทบทวน เพียงประกาศเดียวคือ การห้ามเบิกจ่ายยากลูโคซามีนซัลเฟต แต่ไม่พูดถึงประกาศอีก 2 ฉบับ ทั้งที่ควรทบทวนและยกเลิกประกาศทั้งหมด เพราะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยสิทธิสวัสดิการข้าราชการทุกคน รวมทั้งแพทย์ผู้ตรวจเนื่องจากเป็นการบังคับให้มีการเบิกจ่ายยา ทั้งที่ข้อเท็จจริง กรมบัญชีกลางไม่มีอำนาจควบคุมการใช้ยา แต่มีอำนาจทางการเงิน ดังนั้น ขอยืนยันว่าจะเดินหน้าฟ้องร้องกรมบัญชีกลางโดยขอเวลารวบรวมข้อมูลและจำนวนคนยื่นฟ้อง โดยจะฟ้องต่อศาลปกครองหรือศาลยุติธรรม คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน
"กรมบัญชีกลางไม่มีอำนาจควบคุมการใช้ยา แม้จะมีการปรับแก้พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล จาก พ.ศ. 2523 เป็นพ.ศ.2553 โดยเพิ่มอำนาจในเรื่องการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และอัตราที่ ก.คลัง กำหนด หมายถึง เงินไม่ใช่ยา ที่สำคัญพระราชกฤษฎีกานี้ขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 51 ที่ระบุว่า บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการสาธารณสุขที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน จึงสามารถฟ้องร้องได้" ประธาน สพศท. กล่าว
ที่มา: นสพ.ASTVผู้จัดการรายวัน วันที่ 23 ตุลาคม 2555
- 14 views