โรงงานยาสูบอึ้งยอดขายวูบ 50% พิษขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ โร่เคลียร์คลัง-ก.สาธารณสุข ชี้ขึ้นภาษีลักลั่น-2 มาตรฐาน ทำคนหันมวนยาเส้นสูบแทน เสี่ยงสูง ทำลายสุขภาพหนักกว่า พร้อมชงของบเพิ่มสร้างโรงงานภาคเหนือ
นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ผู้อำนวยการยาสูบ โรงงานยาสูบ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะหารือกับกรมสรรพสามิตถึงผลกระทบจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตบุหรี่ที่ทำให้ยอดขายของโรงงานยาสูบลดลงไปถึง 50% เพราะการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวยังมีความลักลั่นและ 2 มาตรฐาน ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงที่ต้องการให้คนลดการสูบบุหรี่ลง โดยเฉพาะการปรับภาษียาเส้นจาก 1 บาทเป็น 10 บาทต่อกิโลกรัมเพิ่มขึ้น 10 เท่า แต่ในส่วนโรงงานยาสูบต้องเสียภาษีในส่วนของยาเส้นปรุง ซึ่งต้องเสียภาษีในส่วนนี้กิโลกรัมละ 1 พันบาทตามอัตราใหม่ ขณะเดียวกันกลับทำให้คนหันไปมวนยาเส้นสูบเองด้วย เพราะแม้ว่าอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้น แต่ราคายังถูกกว่าบุหรี่ซองมาก
"ยอดขายเราลดลงกว่าครึ่ง แต่กลับพบว่าตลาดยาเส้นเติบโตขึ้นมาก เฉลี่ยปีละ 35% หรือเติบโตขึ้นเกือบ 7 เท่า นับจากปี 2536 ทั้งที่บุหรี่เส้นเองไม่ได้ควบคุมคุณภาพ และจะเป็นบ่อนทำลายสุขภาพขัดกับวัตถุประสงค์ในการขึ้นภาษี และหลังจากนั้นสัปดาห์ถัดไปจะไปหารือกับกระทรวงสาธารณสุขในฐานะที่เป็นต้นเรื่องในการขึ้นภาษีครั้งนี้ว่า จะมีแนวทางควบคุมอย่างไร เพราะการทำให้บุหรี่ราคาสูงขึ้น ไม่ได้ช่วยให้ลดการบริโภคลง แต่กลับมีความเสี่ยงในการทำลายสุขภาพเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง"
อย่างไรก็ตาม โรงงานยาสูบเองกำลังประชุมหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหายอดขายที่ลดลง แม้ว่าจะยังไม่มีผลกระทบต่อเงินนำส่งเข้ารัฐปีนี้ ที่คาดว่าจะไม่ต่ำกว่าปีก่อน ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เพราะการขึ้นภาษีเป็นช่วงท้ายของปีงบประมาณ แต่ในปี 2556 ผลกระทบจะเกิดขึ้นทั้งปี ก็อาจจะมีผลต่อเงินนำส่งรายได้เข้ารัฐด้วย
นายต่อศักดิ์กล่าวว่า ได้เสนอแผนการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ไปยังกระทรวงการคลังแล้ว หลังจากที่ปรึกษาได้สรุปผลการศึกษาถึงข้อดีข้อเสียในการเลือกพื้นที่ ที่จะสร้างโรงงานเพิ่มเติมจากแผนก่อสร้างเดิมที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ แต่ประสบปัญหาน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา โดยที่เสนอทางเลือก 2 พื้นที่คือ จ.เชียงใหม่ และ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ภายใต้งบประมาณรวม 1.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากแผนก่อสร้างเพิ่ม 1.6 หมื่นล้านบาท โดยจะแบ่งกำลังการผลิตไว้ที่โรงงานโรจนะ 60% และที่แห่งใหม่อีก 40% และจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 3.2 หมื่นล้านมวน เป็น 3.5 หมื่นล้านมวนต่อปี
"คณะกรรมการโรงงานยาสูบได้พิจารณาอนุมัติผลการศึกษาโรงงานแห่งใหม่ตามที่บรึกษาเสนอแนะมาและได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงการคลังแล้ว จากนั้นก็ขึ้นกับกระทรวงว่าจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อไหร่ เพราะแผนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จึงต้องเสนอใหม่พร้อมกับขออนุมัติวงเงินเพิ่มเติมด้วย" นายต่อศักดิ์กล่าว
ที่มา : นสพ.มติชนรายวัน วันที่ 9 ตุลาคม 2555
- 46 views