บีเอ็นเอชงัดเทคโนโลยีสู้ศึกร.พ.หรู ผุดสาขารับคนไข้ทะลัก-เพิ่มคลินิกดึงลูกค้าซีบวก

"บีเอ็นเอช" งัดนวัตกรรมการให้บริการสู้ศึกโรงพยาบาลพรีเมี่ยม เปิดตัว "บีเอ็นเอช สมาร์ท เออาร์" ดึงคนรุ่นใหม่ เล็งเปิดสาขา 2 รับมือลูกค้าทะลัก พร้อมขยายคลินิกอีก 2 แห่ง เพิ่มลูกค้าซีบวก

นพ.ดุลย์ ดำรงศักดิ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า บีเอ็นเอชเป็นแบรนด์ที่อยู่ในระดับพรีเมี่ยม และอยู่ในตลาดมานาน 114 ปี จึงต้องการสร้างความต่างจากรายอื่น ๆ ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการ โดยเพิ่มงบฯลงทุนด้านนวัตกรรมมากขึ้น หรือ 40 ล้านบาทต่อปี เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น และเสริมศักยภาพการให้บริการกับผู้ป่วย ทำให้รู้สึกพึงพอใจและสร้างการรับรู้แบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเข้ามาใช้บริการ ปัจจุบันตลาดพรีเมี่ยมมีผู้เล่นหลัก ๆ ไม่กี่ราย ในขณะที่กลุ่มเป้าหมายมีสัดส่วนคิดเป็น 10% ของประชากรกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีอายุมาก จึงยังมีโอกาสในการให้บริการด้านสุขภาพ

จากแนวทางดังกล่าว ได้เปิดตัว บีเอ็นเอช สมาร์ท เออาร์ โดยใช้งบฯลงทุน 3 ล้านบาท เป็นการต่อยอดจากต้นปี ที่ได้ติดตั้งตู้คีออสก์บรรจุข้อมูลประชาสัมพันธ์และบริการทางการแพทย์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสืบค้นข้อมูลของโรค แพ็กเกจ โปรโมชั่น รวมถึงระบบรับชำระผ่านบัตรเครดิต

บีเอ็นเอช สมาร์ท เออาร์ เป็นการ นำเทคโนโลยีเออาร์ (Augmented Reality) เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการบริการด้านสุขภาพเป็นครั้งแรกของไทย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้รักสุขภาพ ได้เข้าถึงบริการสุขภาพผ่านสมาร์ท ดีไวซ์ เฟสแรก ประกอบด้วยเออาร์ เพลย์กราวนด์ จอภาพกราฟฟิก 3 มิติ ทำให้ผู้ป่วยเด็กได้มีกิจกรรมออกกำลังกายกับการออกท่าทางเต้นไปกับตัวการ์ตูนบนหน้าจอ

นอกจากนี้ก็ยังมีเออาร์-เฮลท์ตี้มี (AR-HealthyMe) ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน ไอแพด ไอโฟน สามารถเชื่อมต่อกับแพทย์และข้อมูลโรงพยาบาลได้อย่างใกล้ชิด ด้วยการนำเสนอข้อมูลสุขภาพในมิติใหม่ ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นและใช้เครื่องหมายในรูปของสัญลักษณ์หรือมาร์กเกอร์ ในการเชื่อมต่อข้อมูลวิธีการใช้ยาและคำแนะนำการดูแลสุขภาพของคนไข้ในแต่ละกลุ่มโรค อาทิ หัวใจ ทันตกรรม เป็นต้น และปี 2556 มีแผนพัฒนาแอปฯ AR-Connected Health เวอร์ชั่นแรก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทุกคน โดยไม่จำกัดว่าเป็นลูกค้าบีเอ็นเอช

ด้านบริการทางการแพทย์ นพ.ดุลย์กล่าวว่า เตรียมจะเปิดศูนย์ความงามและศูนย์มะเร็งเต้านมปลายปีนี้ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าผู้หญิง ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการมีสัดส่วน 65%

นพ.ดุลย์กล่าวว่า จากปัจจุบันพื้นที่ให้บริการค่อนข้างแน่น เนื่องจากจำนวนคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น เป็นคนไข้นอกวันละ 1,000 คน คนไข้เด็ก 200-300 คนต่อวัน คนไข้ในมีปริมาณเตียงรองรับเพียง 100 เตียง ซึ่งขณะนี้มีอัตราครองเตียง 90% และที่จอดรถไม่เพียงพอ จึงได้เช่าอาคารสำนักงานโดยรอบเป็นที่จอดรถ และภายใน 2-3 ปีนี้มีแผนขยายการลงทุนสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ในเขตกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ในปี 2556 ยังมีแผนขยายคลินิกอีก 2 แห่ง จากปัจจุบันมี 3 แห่ง ก็คือ บีเอ็นเอช แอท ออลซีซั่น, บีเอ็นเอช แอท นราธิวาส และสาขาล่าสุดที่เปิดในปีนี้ก็คือ บีเอ็นเอช แอท สุรวงศ์ คาดว่าใช้งบฯลงทุนไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทต่อสาขา โดยมีรัศมีห่างจากโรงพยาบาลไม่เกิน 5 กิโลเมตร เพื่อเป็นการลดความแออัดของโรงพยาบาลบีเอ็นเอช โดยลูกค้าสามารถใช้บริการรักษาโรคทั่วไป และเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการใกล้บ้าน  ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายฐานลูกค้าซีบวกขึ้นไป เนื่องจากช่องว่างค่ารักษาพยาบาลของคลินิกต่างกับบีเอ็นเอชมีสัดส่วนอยู่ 30-40%

"แบรนด์บีเอ็นเอชต้องอยู่ในทำเลกรุงเทพฯ ต้องมีลูกค้าพรีเมี่ยมเยอะพอสมควร แบรนด์ใหม่คงไม่ทำ เพราะกลุ่มกรุงเทพดุสิตเวชการมีแบรนด์ในเครือจำนวนมากอยู่แล้ว อีกทั้งการสร้างแบรนด์ใหม่เป็นเรื่องที่ยาก เพราะปัจจุบันแบรนด์หลัก ๆ ที่แข็งแรงในตลาดมีอยู่ค่อนข้างมาก"

ส่วนผลประกอบการสิ้นปีนี้คาดว่าจะเติบโต 14-15% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ 10% หรือมีรายได้มากกว่า 1,700 ล้านบาท และปี 2556 ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท

ที่มา: นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 - 3 ต.ค. 2555