อภ.วางขายยาแก้เซ็กส์เสื่อม ที่ร้านยาองค์การฯ 1 ต.ค.นี้ เม็ดละ 25 บาท เข้มต้องมีใบสั่งแพทย์ เตรียมเปิดเครื่องผลิตยาล็อตแรกที่โรงงานแห่งใหม่ รังสิตคลอง 10 นำร่องยากลุ่มปฏิชีวนะ
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 55 ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กทม. นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเดินทางมาตรวจเยี่ยมองค์การเภสัชกรรม (อภ.)ว่า ได้มอบนโยบายให้ องค์การเภสัชกรรมดำเนินการผลิตยาสามัญให้มีคุณภาพ และได้มาตรฐานจีเอ็มพี โดยเฉพาะที่โรงงานผลิตยาแห่งใหม่ขององค์การเภสัชกรรมบริเวณรังสิตคลอง 10 จ.ปทุมธานี จะต้องเป็นโรงงานที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับ ซึ่งทราบว่าในเดือนตุลาคมนี้จะสามารถเดินเครื่องผลิตยาลอตแรก
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า โรงงานแห่งใหม่ มีกำลังผลิตประมาณ 3,500-3,800 ล้านเม็ดต่อปี โดยจะเริ่มผลิตกลุ่มยาปฏิชีวนะ ซึ่งเป็นยาสำหรับการรักษาการติดเชื้อต่างๆ ก่อนเป็นกลุ่มแรกในเดือนตุลาคม คาดว่าจะสามารถผลิตได้รอบละ 2 แสนเม็ด จากนั้นจะทยอยผลิตยากลุ่มอื่นๆ รวมทั้ง ยารักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งยารักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศล็อตแรกมีการผลิตแล้ว โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ราคาเม็ดละ 25 บาท ที่ร้านยาคุณภาพขององค์การเภสัชกรรม และร้านยาที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จำนวน 9 แห่งในกทม. ซึ่งการจะซื้อนั้นจะต้องมีใบสั่งจากแพทย์ด้วย
"จุดประสงค์ในการผลิต เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของยาปลอม ประกอบกับคนไทยมีจำนวนผู้ป่วยเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้สูงอายุ กลุ่มยาดังกล่าวจึงเป็นที่ต้องการจำนวนมาก ขณะที่ราคายาดังกล่าวทั่วไปมีราคาแพง ส่งผลให้เกิดการเข้าถึงยายาก สำนักคณะกรรมการอาหารและยา จึงได้หารือกับองค์การเภสัชกรรมในการผลิตยาเพื่อแก้ปัญหานี้ขึ้น ซึ่งองค์การเภสัชกรรมมุ่งผลิตยาสามัญเพื่อให้คนเข้าถึงยา ไม่ได้หวังผลกำไร"นพ.วิทิตกล่าว
ผอ.องค์การเภสัชกรรมกล่าวอีกว่า โรงงานผลิตเดิมที่ อภ.บริเวณ ถ.พระรามที่ 6 นั้น ปัจจุบันมีศักยภาพในการผลิตที่ 4,000 กว่าล้านเม็ดต่อปี จะยังคงเดินเครื่องอยู่ แต่จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตให้ผลิตได้เพิ่มมากและเร็วขึ้นประมาณ 5-6 เท่า โดยใช้งบเพิ่มอีก 190 ล้านบาท โดยโรงงานแห่งนี้จะเน้นการผลิตยาจำนวนมากและเร็ว เพื่อส่งไปจำหน่ายยังกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ ลาว พม่า มาเลเซีย เวียดนาม โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มยาต้านไวรัสเอชไอวี อย่างไรก็ตาม แผนระยะยาวจำเป็นต้องย้ายฐานการผลิตทั้งหมดไปอยู่ที่รังสิตคลอง 10 เพื่อให้เป็นโรงงานครบวงจร โดยคาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปี จะสามารถย้ายฐานการผลิตยาขององค์การเภสัชกรรมไปที่คลอง 10 ได้ทั้งหมด ซึ่งขณะนั้นจะต้องเพิ่มกำลังการผลิตอีกร้อยละ 30 โดยต้องเพิ่มงบประมาณอีก 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยารักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศขององค์การเภสัชกรรมแบ่งออกเป็น 2 ขนาด คือ ขนาด 50 มิลลิกรัม ราคาเม็ดละ 25 บาท และขนาด100 มิลลิกรัม ราคาเม็ดละ 45 บาท ขณะที่ยาที่ขายตามท้องตลาดมีราคาสูงถึงเม็ดละ 200 บาท
ที่มา: นสพ.คมชัดลึก วันที่ 20 กันยายน 2555
- 244 views