รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมเริ่มโครงการร่วมจ่าย 30 บาท ในระดับโรงพยาบาลชุมชนขึ้นไป รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2555 คงสิทธิยกเว้นร่วมจ่าย ในผู้รับบริการ 21 กลุ่ม เพิ่มคุณภาพบริการทั้งป่วยฉุกเฉิน ป่วยรุนแรง บริการไม่มีเวลาหยุดพักเที่ยง และให้สิทธิประชาชนสามารถเปลี่ยนหน่วยบริการที่พอใจได้ปีละไม่เกิน 4 ครั้ง
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการร่วมจ่ายค่าธรรมเนียมบริการ 30 บาทในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าตามนโยบายรัฐบาลว่า โครงการดังกล่าว จะเริ่มในวันที่ 1 กันยายน 2555 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยดำเนินการในระดับโรงพยาบาลชุมชนขึ้นไปจนถึงโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ และในโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยประชาชนจะร่วมจ่าย ในกรณีที่มีการรับยาเท่านั้น หากรายใดไม่ประสงค์จะจ่าย 30 บาท ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ โดยผู้ที่เคยได้รับสิทธิยกเว้นการร่วมจ่าย 30 บาทมีทั้งหมด 21 กลุ่ม ก็จะได้รับการยกเว้นร่วมจ่ายเหมือนเดิม ขณะนี้ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ และให้โรงพยาบาลทุกแห่งพัฒนาความพร้อมให้บริการที่ดีขึ้นทุกด้านทั้งผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยเรื้อรัง บริการผู้สูงอายุ ผู้พิการ โดยไม่มีเวลาหยุดพักเที่ยง นอกจากนั้น ยังให้ให้สิทธิประชาชน สามารถเปลี่ยนหน่วยบริการที่พอใจได้ปีละ 4 ครั้ง จากเดิมเปลี่ยนได้ปีละ 2 ครั้ง โดยใช้บัตรประชาชนหรือเอกสารทางราชการที่มีเลข 13 หลักเป็นหลักฐาน เพิ่มความสะดวกประชาชนยิ่งขึ้น ในเขตกทม.สามารถยื่นเปลี่ยนได้ที่สำนักงานเขต ส่วนต่างจังหวัดยื่นที่สถานบริการสาธารณสุข
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โดยจะประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ในวันที่ 21 ส.ค. 2555 เพื่อในระบบบริการราบรื่นเหมือนกันทั่วประเทศ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชุมชนที่มี 875 แห่ง ให้จัดแพทย์ตรวจรักษาอย่างน้อย 2 คน โครงการร่วมจ่ายนี้ จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนไปใช้บริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิในพื้นที่ใกล้บ้านมากขึ้น ซึ่งสามารถดูแลประชาชนได้ดี เหมือนโรงพยาบาลใหญ่ ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน ความดัน การตรวจรักษาโรคทั่วไป โดยใช้ระบบการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตพูดคุยปรึกษากับแพทย์ผู้รักษาในโรงพยาบาลใหญ่โดยตรง
ทางด้านนายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช.ได้จัดทำคู่มือบัตรทองจำนวน 3 ล้านฉบับ เพื่อชี้แจงเรื่องการร่วมจ่ายด้วย แจกให้ประชาชน โดยกลุ่มประชาชนที่ได้รับการยกเว้นการร่วมจ่าย 30 บาท มีทั้งหมด 21 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้เข้ารับบริการด้านการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ ฉุกเฉินเร่งด่วน หรือเข้ารับบริการในหน่วยบริการที่ระดับต่ำกว่าโรงพยาบาลชุมชน 2.ผู้มีรายได้น้อย 3.ผู้นำชุมชน ได้แก่ กำนัน สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และบุคคลในครอบครัว 4.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และบุคคลในครอบครัว 5.ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี 6.เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี 7.คนพิการทั้งที่มีบัตรและไม่มีบัตรประจำตัว 8.พระภิกษุ สามเณร แม่ชี นักบวช นักพรต ผู้นำศาสนาอิสลามที่มีหนังสือรับรอง และบุคคลในครอบครัวของผู้นำศาสนาอิสลาม 9.ทหารผ่านศึกทุกระดับที่มีบัตร และบุคคลในครอบครัว รวมถึงผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิและทายาท 10.นักเรียนไม่เกินชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 11.นักเรียนทหารและทหารเกณฑ์12.ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญงานพระราชสงครามในทวีปยุโรปและบุคคลในครอบครัว 13.อาสาสมัครมาเลเรีย ตามโครงการของกระทรวงสาธารณสุขและบุคคลในครอบครัว 14.ช่างสุขภัณฑ์หมู่บ้านตามโครงการของกรมอนามัยและบุคคลในครอบครัว 15.ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญชายแดน 16. ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน 17. สมาชิกผู้บริจาคโลหิตของสภากาชาดไทย ที่มีหนังสือรับรองว่าได้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 18 ครั้งขึ้นไป 18. หมออาสาหมู่บ้านตามโครงการกระทรวงกลาโหม 19. อาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม 20. อาสาสมัครทหารพรานในสังกัดกองทัพบก 21. บุคคลที่แสดงความประสงค์ไม่จ่ายค่าบริการ
- 4 views