องค์การอนามัยโลกตรวจพบไวรัสสายพันธุ์เดียวกับโรคปากเท้าเปื่อย ในเด็กกัมพูชาที่เจอโรคระบาด ทำเสียชีวิตไปกว่า 60 ราย ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งระดมป้องกันด่วน หวั่นโรคประหลาดลามเข้าประเทศไทย
องค์การอนามัยโลก (ฮู) และกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา แถลงร่วมกันวานนี้ (9 ก.ค.) ว่า มีเด็กอายุ 3 เดือนถึง 11 ขวบ อย่างน้อย 52 ราย เสียชีวิตจากโรคลึกลับตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. ส่วน 7 รายรอดชีวิต และผลจากห้องทดลองพบว่าผู้ติดเชื้อมีเอนเทอโรไวรัส 71 หรืออีวี 71 ซึ่งเป็นไวรัสสายพันธุ์ใกล้เคียงกับไวรัสปากเท้าเปื่อย อยู่ในปริมาณมาก โดยนอกไวรัสสายพันธุ์นี้ทำให้เกิดโรคปากเท้าเปื่อยแล้ว ยังก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงในผู้ป่วยบางราย
นอกจากนั้น ยังพบเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ รวมถึงเชื้อไข้เลือดออกและเชื้อสเตรปโตคอกคัสซูอิส ซึ่งอยู่ในสุกรและสามารถติดต่อมายังคนได้
นายนิมา แอสการี ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขประจำฮูในกัมพูชา กล่าวว่า ไวรัสอีวี 71 พบบ่อยในเอเชีย แต่เชื่อว่าไม่เคยพบในกัมพูชามาก่อน พร้อมเสริมว่าการค้นพบไวรัสอีวี 71 ในเด็กที่เสียชีวิต เป็นก้าวแรกที่สำคัญ แต่ย้ำว่าต้องทำการทดสอบมากกว่านี้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ
เด็กที่ป่วยด้วยโรคลึกลับจะมีอาการไข้สูง ตามด้วยระบบหายใจอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว และมีอัตราการเสียชีวิตสูงในหมู่เด็กเล็ก นายบีท ริชเนอร์ กุมารแพทย์และผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลเด็กกันธาโบภา ซึ่งรักษาเด็กส่วนใหญ่ที่ป่วยโรคนี้ ระบุถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตว่าอยู่ที่ 64 ราย และมีเพียงเด็ก 2 คนที่รอดชีวิต
นายริชเนอร์ ซึ่งเป็นคนแรกที่เตือนให้สาธารณชนระวังโรคนี้ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ป่วย 15 คนจากจำนวน 24 คนติดเชื้อไวรัสอีวี 71 แต่นี่ไม่ใช่จุดจบของโรค เพราะต้องมีการวินิจฉัยอีกว่าอะไรเป็นสาเหตุของโรคแทรกซ้อน รวมถึงดูว่าสารพิษเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
ด้านนายมัม บุญเฮง รัฐมนตรีสาธารณสุขกัมพูชา แถลงว่ากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงนำข้อมูลจากห้องทดลองและข้อมูลการระบาดของโรคมาเทียบเคียงกัน โดยหวังจะได้ข้อสรุปภายในไม่กี่วันข้างหน้า
ทั้งนี้ โรคปากเท้าเปื่อยเป็นโรคที่สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรงกับของเหลวจากร่างกาย หรืออุจจาระของผู้ติดเชื้อ วิธีป้องกันโรคนี้ที่ดีที่สุดคือรักษาความสะอาด
ด้านนายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า จังหวัดสระแก้วได้รับรายงานว่าในกัมพูชาเกิดโรคระบาดชนิดหนึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร จังหวัดสระแก้วได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยโรคดังกล่าวเกิดขึ้นทางตอนใต้ของกัมพูชา และส่วนใหญ่เป็นเด็กเขมรที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งมีการตรวจพบแล้วจำนวน 62 ราย แต่ได้เสียชีวิตไปจำนวน 60 ราย หรือเกือบ 100%
โรคดังกล่าวมีอยู่ 3 ลักษณะ คือ มีไข้สูง สมองอักเสบ และระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจากการตรวจสอบไปยังจังหวัดบันเตียเมียนเจย และจังหวัดพระตะบองของกัมพูชา ซึ่งมีชายแดนติดกับจังหวัดสระแก้ว ยังไม่พบโรคดังกล่าวระบาดเข้ามา แต่เพื่อความไม่ประมาทจังหวัดสระแก้วได้สั่งการให้ ตม.จว.สระแก้ว ด่านศุลกากรอรัญประเทศ กองร้อยทหารพรานบ้านคลองลึก และด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ให้เฝ้าระวังโรคและติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา โดยให้เฝ้าระวังผู้ที่มีลักษณะอาการทั้ง 3 อาการที่เดินทางจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในไทย หากตรวจพบให้รีบแจ้งประสานโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
นอกจากนี้ ผวจ.สระแก้ว ยังสั่งการให้โรงเรียนทุกโรงเรียนในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนในพื้นที่ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังและคอยตรวจสอบเด็กนักเรียน หากพบเด็กป่วยให้รีบแจ้งสาธารณสุขในพื้นที่ทันที
ที่มา: นสพ.กรุงเทพธุรกิจวันที่ 10 ก.ค. 2555
- 9 views