ปมยื้อสาธารณสุขงบ!ไทยเข้มแข็ง

ชมรมแพทย์ชนบทยื่นหนังสือร้องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินและ ป.ป.ช. กรณีขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข อันอาจส่อเจตนาเอื้อให้เกิดการทุจริต และประพฤติมิชอบในหน้าที่ราชการ

เนื้อหาใจความสำคัญคือการประพฤติมิชอบในหน้าที่ราชการ ในฐานะผู้บริหารหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข และส่อเจตนาเอื้อให้เกิดการทุจริต กรณี โครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 3,426,349,100 บาท

ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง

ต่อมาได้มีมติวันที่ 13 ธันวาคม 2554 ขอให้ส่วนราชการทบทวนความจำเป็น เหมาะสม คุ้มค่าของการดำเนินการโครงการ เพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง และในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนความจำเป็นเหมาะสม และแจ้งยืนยันไปที่กระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป

ข้อสังเกตสำคัญอยู่ในขั้นตอนนี้...เป็นเพราะผู้บริหารทั้ง 2 คนไม่ใส่ใจในมติคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ทำให้เมื่อคราวการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2555 กระทรวงการคลังจึงขอให้คณะรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขยืนยันการใช้งบประมาณภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2555

โดยหากไม่แจ้งยืนยันภายในกำหนด กระทรวงการคลังจะได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณส่วนนี้ให้โครงการอื่น ที่มีความจำเป็นตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

โครงการไทยเข้มแข็งเป็นโครงการเงินกู้ที่รัฐบาลได้กู้เงินจากต่างประเทศ ตั้งแต่ก่อนปีงบประมาณ 2554 ทำให้รัฐบาลต้องนำภาษีที่ประชาชนคนไทยร่วมจ่าย มาเสียดอกเบี้ยให้ต่างประเทศนับตั้งแต่วันที่กู้เงินมา เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หรือตามนโยบายของรัฐบาล

นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท บอกว่า กระทรวงสาธารณสุขมีหน่วยงาน...สถานบริการโรงพยาบาลกว่า 900 แห่ง ที่ขาดการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อให้การวินิจฉัย รักษาโรคต่อประชาชนคนไทยมากว่า 10 ปี

 “เมื่องบไม่มาทำให้หน่วยงาน...สถานบริการโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขขาดแคลนครุภัณฑ์การแพทย์เป็นจำนวนมาก โดย เฉพาะโรงพยาบาลที่อยู่ในชนบท”

แต่เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขซึ่งได้บทเรียนมาจากการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งรอบแรก จึงได้ดำเนินการพิจารณาขอรับการสนับสนุนงบประมาณครั้งนี้อย่างเป็นระบบ นับตั้งแต่การจัดทำดัชนีเครื่องมือแพทย์ และปรับลดราคาเครื่องมือแพทย์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20

และเปิดให้มีการประกวดราคาอย่างโปร่งใสเป็นธรรม ตามระเบียบพัสดุฯโดยเคร่งครัด จนแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 โดยไม่เกิดปัญหาร้องเรียนใดๆ และทำให้ราคาครุภัณฑ์การแพทย์ที่ประกวด...สอบราคาได้มีราคาถูกกว่าการจัดซื้อในอดีตอย่างชัดเจน

แต่จากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2554 และเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ขอให้ส่วนราชการได้ทบทวนความจำเป็น เหมาะสมคุ้มค่าของการดำเนินการโครงการนี้ เพื่อคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอีกครั้ง จนบัดนี้ระยะเวลาผ่านไปกว่า 6 เดือน กระทรวงสาธารณสุขกลับไม่ดำเนินการใดๆ

จนทำให้เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2555 กระทรวงการคลังได้ขีดเส้นตาย ให้กระทรวงสาธารณสุขยืนยันถึงความจำเป็นอีกครั้ง แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ยังไม่ดำเนินการใดๆอีกเช่นเคย อันอาจส่งผลให้งบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขที่จะนำมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตกไป

แน่นอนว่าจะส่งผลในวงกว้างทำให้โรงพยาบาลกว่า 900 แห่งต้องขาดแคลนครุภัณฑ์การแพทย์ ขาดมาตรฐานบริการส่งผลให้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข กลายเป็นโรงพยาบาลอนาถาขาดความน่าเชื่อถือ

ท้ายที่สุด จะนำมาซึ่งการล้มเหลวของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

นายแพทย์เกรียงศักดิ์ มองว่า จากเหตุผลและความจำเป็นข้างต้น ชี้ให้เห็นว่าโครงการไทยเข้มแข็งรอบนี้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ตั้งงบประมาณในการจัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ในปีงบประมาณ 2555 แต่อย่างใด เนื่องจากเห็นว่ามีงบประมาณในส่วนนี้แล้ว

ถึงตอนนี้เวลาได้ผ่านมาจนกระทั่งจะหมดเวลาการใช้จ่ายเงินกู้แล้ว (30 กันยายน 2555) แต่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและ รมต.สาธารณสุข ก็ยังไม่ยอมนำเรื่องเข้า ครม. สะท้อนว่า รมต.และปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่คำนึงถึงความจำเป็นในการใช้เครื่องมือแพทย์เพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วย...

ขาดคุณธรรม จริยธรรม และมนุษยธรรม

ไม่เห็นความสำคัญของการมีชีวิตรอด ซึ่งเข้าข่ายการประพฤติมิชอบในหน้าที่ราชการขาดคุณสมบัติการเป็น รมต.สาธารณสุข และปลัดกระทรวง ที่ไม่สามารถนำความปลอดภัยในชีวิตให้ประชาชนผู้เสียภาษีให้รัฐได้

และอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่จะต้องพัฒนาให้หน่วยงานภายใต้การกำกับมีคุณภาพมาตรฐาน เนื่องจากงบก้อนนี้เป็นงบก้อนเดียวที่จะนำมาใช้ในปีงบประมาณ 2555

มองให้รอบด้านในข้อฉงนสงสัย เหตุใดกระทรวงจึงไม่ยอมยืนยันถึงความจำเป็นและขออนุมัติงบนี้กับคณะรัฐมนตรีถึง 3 ครั้ง 3 ครา...การทอดระยะเวลา ปล่อยผ่านไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะเหตุใดกันแน่

ก็รู้ๆกันอยู่เต็มอกว่า ถ้าปล่อยก็อาจทำให้งบฯก้อนนี้ตกไป หรือบริษัทอาจไม่ยืนราคาทำให้สินค้าขึ้นราคา ทำให้ผู้ป่วยเสียประโยชน์จากการขาดโอกาสใช้เครื่องมือแพทย์ที่มีความจำเป็น

ข้อมูลวงในที่เกี่ยวโยงกับความล่าช้า ชมรมแพทย์ชนบทได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ผู้ใหญ่ระดับบริหารในกระทรวง มีการสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำการบางประการที่ขัดกับระเบียบพัสดุฯ ขัดกับหลักการบริหารจัดการภาครัฐที่ดี โดยกระทำการในลักษณะใช้อำนาจในการอนุมัติงบประมาณก้อนนี้ เพื่อเรียกร้องสิ่งที่ไม่พึงได้ อันอาจเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตได้

ไม่รู้ว่าประชดหรือเปล่า คุณหมอเกรียงศักดิ์ บอกว่าจากการกระทำนี้ ชมรมแพทย์ชนบทเห็นถึงความทุกข์ยากลำบากของประชาชน จึงเป็นตัวแทนบากหน้าไปร้องขอให้รายการเรื่องเล่าเช้านี้, เรื่องเล่าเสาร์...อาทิตย์ และสื่อมวลชนอื่นๆ ร่วมระดมเงินรับบริจาคจากประชาชน เพื่อนำไปจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ

ปมปัญหาในภาพใหญ่มีเพียงเท่านี้ แต่ยังมีปมเล็กๆ “งบค่าเสื่อม”...ที่เกี่ยวพันกับความไม่โปร่งใสที่ส่อเจตนาเอื้อให้เกิดการทุจริต ที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันตรวจสอบกันต่อไป ชนิดห้ามกะพริบตา

ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ วันที่ 22 มิ.ย. 55