รายงานสุขภาพชี้!! คนไทยป่วยจากโรคอ้วนปีละหลายแสนราย

คนอ้วนในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย คนหนุ่มสาวหรือผู้สูงอายุ กำลังถูกโรคอ้วนคุกคามสุขภาพซึ่งสาเหตุหลักๆ เป็นผลมาจากการกินตามใจปาก และละเลยการออกกำลังกายทำให้จากอ้วนธรรมดากลายเป็นโรคอ้วนอันตราย

นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้โรคอ้วนได้กลายเป็นปัญหาที่กำลังคุกคามสุขภาพคนไทย ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งผลการสำรวจสุขภาพคนไทย ครั้งที่ 4 ในปี 2551-2552 พบประชาชนไทยเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นกว่าการสำรวจครั้งที่ 3 เมื่อปี 2546-2547 โดยผู้หญิงอ้วนเพิ่มจากร้อยละ 23 เป็นร้อยละ 28 และเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ตามมา ทั้งโรคหัวใจหลอดเลือดเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมะเร็ง

จากรายงานการสำรวจสุขภาพคนไทยปี 2553 ระบุว่ามีผุ้ป่วยโรคอ้วนที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 8,350 บาท เบาหวาน 607,828 ราย หัวใจหลอดเลือด 253,016 ราย ความดันโลหิตสูง 859,583 ราย และมะเร็ง 426,689 ราย อีกทั้งผลการตรวจคัดกรองสุขภาพคนไทยปี 2554 ยังชี้ให้เห็นว่าความอ้วนได้ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่เพิ่มจำนวนมากกว่า 1 ล้าน 2 แสนราย ดังนั้น เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนจากโรคอ้วน จึงได้มอบเป็นนโยบายเร่งด่วนให้กรมอนามัยเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนิน "โครงการรวมใจสลายพุง" ขึ้น

ด้าน นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า คนอ้วนที่เข้าข่ายเป็นโรคอ้วนอันตรายคือ ผู้ที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรโดยเฉพาะผู้ที่อ้วนแล้วลงพุงด้วย คือ ผู้หญิงที่มีรอบเอวมากกว่า 80 เซนติเมตรและผุ้ชายที่มีรอบเอวมากกว่า 90 เซนติเมตร ซึ่งคนกลุ่มนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งลดน้ำหนักสลายพุง เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังและเป็นอันตรายต่อชีวิตง่ายกว่าคนทั่วไป

กรมอนามันจึงได้กำหนดจัดงาน"วันรวมใจสลายพุงปี 2555" ภายใต้แนวคิด "ประชาชนสุขภาพดี ไม่ต้องกินยา" ขึ้นในวันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน 2555 ณ โรงแรมเอเชีย เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เพื่อปลุกกระแสให้คนไทยหันมาสนใจ ระมัดระวังสุขภาพลดผลกระทบและป้องกันตนเองจากโรคอ้วนให้มากขึ้น

โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยบริการให้คำปรึกษาเรื่องการลดความอ้วนอย่างถูกวิธีโดยพึ่งยาให้ประชาชนได้นำไปเป็นแนวทางปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย จัดให้มีบริการตรวจสุขภาพฟรีอาทิ การตรวจน้ำตาลในเลือดโดยสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย การตรวจวัดความดันโลหิตสูงโดยสมาคมโรคความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย การตรวจวัดโรคหัวใจโดยมูลนิธิโรคหัวใจแห่งประเทศไทย การตรวจวัดองค์ประกอบของร่างกาย ตรวจวัดสรรถภาพร่างกาย สาธิตการทำอาหารลดน้ำหนัก กิจกรรมและเกมต่างๆ และในงานนี้ยังเปิดโอกาสเป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานทั้งชายและหญิงทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคอ้วนที่เข้าข่ายอ้วนอันตรายได้แก่ ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 80 กิโลกรัม และผู้ชายน้ำหนักตัวมากกว่า 90 กิโลกรัม สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ ในวันดังกล่าวได้ทั้งนี้ หากผู้ที่เข้าร่วมโครงการสามารถลดน้ำหนักได้ร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัวภายใน 6 เดือน ทางกรมอนามัยจะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้ในฐานะเป็น "บุคคลดีเด่น ด้านสร้างสุขภาพตนเองได้ดีเยี่ยม" และจะได้รับการคัดเลือกให้เข้าค่ายควบคุมน้ำหนักตัวอย่างยั่งยืนเพื่อไม่กลับมาอ้วนอีก

แพทย์หญิงนภาพรรณ วิริยะอุตสาหกุล ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวว่า การดำเนินโครงการรวมใจสลายพุงเป็นการเปิดโอกาสให้คนอ้วนและคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางปฏิบัติด้านพฤติกรรมสุขภาพต่างๆ ในชีวิตประจำวันซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำด้านอาหารและโภชนาการสาธิตการทำอาหารลดน้ำหนัก ฝึกท่าการออกกำลังกายอย่างง่ายเพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้วิธีการควบคุมน้ำหนักการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง สามารถนำไปปฏิบัติและเห็นผลได้จริงยั่งยืนและมีสุขภาพแข็งแรง ส่วนผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการนั้นในช่วงระยะ 6 เดือน ที่มีการลดความอ้วนทางกรมอนามัยจะการดูแลและติดตามผลนัดพบพูดคุยให้คำปรึกษาต่างๆ ผ่านทาง e-mail : belly2553@gmail.com หรือขอรับบริการคำแนะนำการลดน้ำหนักได้ที่คลินิกไร้พุง (DPAC) โรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลของศูนย์อนามัยที่ 1-12 ทั่วประเทศ

"ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าโครงการด้วยตนเองที่สำนักโภชนาการอาคาร 4 ชั้น 5 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โทรศัพท์หมายเลจ 0 2590 4327 หรือที่ www.anamai.moph.go.th พร้อมกรอกแบบฟอร์มส่งทางโทรสารหมายเลข 0 2590 4326 0 2590 4333 เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2555 รับจำนวนจำกัดเพียง 300 คนเท่านั้น"

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ 5 มิ.ย.55