มติชน 1 มิ.ย. 55-1 มิ.ย.เริ่มฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี! ให้ 7 กลุ่มเสี่ยงในทุกสิทธิ์รักษาพยาบาล 3.55 ล้านคนเป็นปีแรก ใช้งบกว่า 500 ล้านบาท รับบริการได้ในสถานพยาบาลของรัฐทุกแห่ง-รพ.เอกชนที่ร่วมรายการ
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว "โครงการรณรงค์วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล" ว่า โรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลพบทุกปี มีผู้ป่วยปีละ 7-9 แสนราย และในกลุ่มนี้มีผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน อย่างปอดบวม จนต้องรักษาในโรงพยาบาล (รพ.) ละประมาณ 12,575-75,801 รายต่อปี อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลปีละ 913-2,345 ล้านบาท การป้องกันดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งปีนี้ สธ.ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดโครงการฉีดให้กลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม จำนวน 3.55 ล้านโด๊ส ด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท เป็นวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ในเข็มเดียว เริ่มดำเนินการวันที่ 1 มิถุนายน-30 กันยายนนี้ ช่วงฤดูฝนคาบเกี่ยวฤดูหนาวที่ไข้หวัดใหญ่ระบาดมากที่สุด
นพ.โสภณกล่าวว่า วัคซีน 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไวรัสไข้หวัด 2009 (H1N1) ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 (H3N2) และชนิดบี (B) โดยกลุ่มเสี่ยงทั้ง 7 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ให้การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดสัตว์ปีก 2.ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปี 3.กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง มะเร็งที่กำลังรับเคมีบำบัด เบาหวาน ธาลัสซีเมีย และภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ 4.หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 5.ผู้มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม 6.ผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และ 7.เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน-2 ปี
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช. กล่าวว่า วัคซีนที่สั่งซื้อจำนวน 3.55 ล้านโด๊ส ซึ่งมากกว่าปี 2554 ที่สั่งซื้ออยู่ที่ 2.5 ล้านโด๊สนั้น เนื่องจากในปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีการขยายให้กลุ่มเสี่ยงในระบบสุขภาพอื่นๆ ด้วย คือ สปสช. ประกันสังคม และสิทธิสวัสดิการข้าราชการ จากเดิมจะฉีดให้เฉพาะผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จริงๆ ตั้งเป้าไว้ว่าต้องฉีดให้ครอบคลุม 8 ล้านคน หรือ 8 ล้านโด๊ส แต่ในปีนี้กำหนดเพียง 3.55 ล้านโด๊สก่อนขยายในอนาคต
นพ.สมชัย นิจพานิช รองปลัดสธ. กล่าวถึงจำนวนวัคซีนที่เหลือในปี 2554 ว่า ในปีที่ผ่านมา มีการนำเข้าจำนวน 2.5 ล้านโด๊ส ซึ่งได้รับการตอบรับโดยมีกลุ่มเสี่ยงมาฉีดมากกว่าร้อยละ 86 ซึ่งที่เหลือนั้นได้นำไปฉีดเพิ่มเติมให้กลุ่มเสี่ยงที่ยังขาดอยู่ รวมทั้งกลุ่มที่มีการทำงานเป็นกลุ่มใหญ่ หรืออยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เช่นค่ายทหาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม วัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลจำเป็นต้องฉีดทุกปี เพราะเชื้อดังกล่าวสามารถเปลี่ยนไปได้ตลอด เพียงแต่ปีนี้ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-14 พฤษภาคม 2555 ทั่วประเทศมีรายงานผู้ป่วยจำนวน 11,380 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต
- 1 view