เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีค้านผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้ายเผาตัวสละชีวิตช่วยเด็กสู้แป๊ะเจี๊ย หวังได้เงินเยียวยาจากรัฐบาล 7.75 ล้านบาทตั้งเป็นกองทุน ชี้ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา สะท้อนความเชื่อเก่าเป็นเอดส์แล้วต้องตาย ชี้เอดส์รักษาได้

แถลงการณ์เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และมูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์

สืบเนื่องจากข่าวที่เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.) ประกาศว่าได้รับการยืนยันจากผู้ป่วยเอดส์ 3 ราย ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายใกล้จะเสียชีวิต ประกาศสละชีวิตเพื่อเด็ก เพื่อจะได้รับเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบความรุนแรงทางการเมืองตามมติ ครม.จำนวน 7.75 ล้าน ไปตั้งเป็นกองทุนแป๊ะเจี๊ยะนั้น เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และมูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ ไม่เห็นด้วยที่จะสละชีวิตตนเองเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงสิทธิการศึกษา การแก้ปัญหาเรื่องความไม่เป็นธรรมทางการศึกษาในระบบการศึกษานั้นเป็นเรื่องสำคัญและเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ สนับสนุนให้มีการแก้ปัญหานี้และยินดีที่ผู้ติดเชื้อได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายฯ ไม่เห็นด้วยกับการที่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ จะอุทิศตนด้วยการเผาตัวเองอันเนื่องมาจากฐานคิดที่ว่าการติดเชื้อ/ป่วยเอดส์ ทำให้ชีวิตหมดคุณค่า โดยมีข้อเท็จจริงที่จะนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องเอชไอวี/เอดส์ ดังนี้

ผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ ทุกคน มีสิทธิที่จะได้รับการรักษาจากระบบหลักประกันสุขภาพทุกระบบของประเทศ แต่ปัญหาการเข้าไม่ถึงการรักษาของผู้ติดเชื้อที่ทำให้ต้องต้องเผชิญภาวะเจ็บป่วยก็เพราะผู้ติดเชื้อยังอยู่กับความเชื่อเดิมที่ว่า “เอดส์เป็นแล้วตาย” และไม่ทราบข้อมูลเรื่องสิทธิการรักษา อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงคือ “เอดส์รักษาได้” หากผู้ติดเชื้อเข้าถึงการรักษาไม่ว่าจะเจ็บป่วยโดยโรคฉวยโอกาสโรคใดก็สามารถรักษาให้หายได้ไม่ต้องอยู่ในภาวะเจ็บป่วยที่นอนรอความตาย และสำหรับประชาชนที่กำลังเผชิญปัญหาเรื่องเอดส์ เรื่องสิทธิในการเข้าถึงการรักษา สามารถโทรศัพท์ปรึกษาได้ที่ 1663 ทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 - 20.00 น.