ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอพิณพาทย์” ผอ.รพ.ชื่นชม เผยพบผู้ป่วย "โรคสโตรก" 30% เท่านั้นที่มาทันเวลา ผุดไอเดียโชว์เอกลักษณ์ไทย ดึงคนคัดกรอง “โรคหลอดเลือดสมอง” พร้อมแนะปชช. หมั่นตวจสุขภาพประจำปี ย้ำหากมีอาการควรพบแพทย์ด่วน!!! 

หลังจากมีผู้ใช้ติ๊กต๊อกชื่อว่า "@mor_pinpart" นั่นคือ นพ.พิณพาทย์ ดาทุมมา ผอ.รพ.ชื่นชม จ.มหาสารคาม ได้โพสคลิปวิดีโอโดยใส่ชุดหมอลำร้องเพลงถือเป็นการดึงเอกลักษณ์ไทยทำให้โดดเด่น  ซึ่งเนื้อหาเล่าถึงเรื่องโรคสโตรก หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคสำคัญที่มีผู้ป่วยในพื้นที่จำนวนมากมารักษาไม่ทันเวลา และคลิปถูกแชร์ต่อออกไปเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด นพ.พิณพาทย์ ดาทุมมา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชื่นชม จ.มหาสารคาม ให้สัมภาษณ์กับ Hfocus ว่า  โรคหลอดเลือดมีหลายอาการ เพราะว่าสมองทําหน้าที่หลายอย่าง อาทิ การควบคุมการทํางานของแขนขา ความรู้สึก ความจํา การมองเห็น เป็นต้น เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างในการที่เราทํางานได้ คือจากการสั่งงานของสมองทั้งหมด ฉะนั้นขึ้นอยู่กับว่าเส้นหลอดเลือดตรงไหนที่มีการอุดตันหรือมีการตีบแตกตัน ทำให้ "อาการของโรคหลอดเลือดสมอง" จึงมีอาการแต่ละส่วนก็จะขึ้นอยู่กับส่วนที่ได้รับผลกระทบจากจุดที่มีการอุดตัน นั้นอาการจึงแตกต่างกันออกไป

ทั้งนี้ สัญญาญเตือนสำคัญที่สังเกตได้ง่ายๆ ให้จำคำว่า "BEFAST" ที่แสดงถึงอาการของโรคหลอดเลือดสมองที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่ง   B = Balance เดินเซ ทรงตัวไม่ได้ E = Eyes ตามัว มองไม่เห็น เฉียบพลัน  F = Face ปากเบี้ยว มุมปากตก A = Arm แขนขาอ่อนแรงซีกเดียว ยกแขนไม่ได้ S = Speech พูดไม่ชัด ริ้นรัว ริ้นแข็ง พูดไม่ออก สื่อสารไม่ได้ และ T = Time ควรรีบไปโรงพยาบาล ให้เร็วที่สุด ซึ่งถือว่าสำคัญมากเพราะต้องจดจำเวลาให้ชัดเจน เพราะว่าเวลาจะเป็นตัวตัดสินในการที่จะพิจารณาให้เรื่องของการรักษาเพราะถ้ามาเกิน 4 ชั่วโมง 30 นาที แทบไม่มียารักษา อาจจะต้องไปหัตถการเลย

สาหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

สำหรับสาหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ขึ้นอยู่กับว่าหลอดเลือดในส่วนต่างๆของร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ คําว่า "ได้รับบาดเจ็บของหลอดเลือด" หมายถึงว่าอาจจะมีความผิดปกติขึ้นที่หลอดเลือด อย่างเช่น คนไข้ที่เป็นความดันสูงต่อเนื่องเรื้อรังมานาน จะทําให้เกิดหลอดเลือดเกิดการโปร่งขึ้น จากนั้นอาจจะมีการแตกก็ทําให้เกิดหลอดเลือดแตก ก็กลายเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ แต่คนไข้บางรายที่เป็น ไขมัน เบาหวาน จะทําให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดเรื้อรัง ดังนั้นจึงเกิดการแข็งตัวของหลอดเลือด เกิดการลิ่มเลือดหนาตัวของหลอดเลือด และหลอดเลือดก็มีการตีบเข้า การอุดตัน หรือในระบางรายก็เกิดการแตก จนทําให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้น 

ในส่วนการดูแลตนเองเพื่อลดปัจจัยการเกิด "โรคหลอดเลือดสมอง" จะใช้คําว่า 3อ. 2ส. โดย 3อ. คือ อาหาร อารมณ์ดี ออกกําลังกาย และ 2ส. คือ สูบบุหรี่ งดสุรา ฉะนั้นปัจจัยเสี่ยงของคนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง ก็คือ เรื่องของอาหาร ทานอาหารที่มีความหวานก็เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน รับประทานอาหารที่มีความมันก็เสี่ยงต่อไขมันในเลือดสูง ซึ่งภาวะไขมันในเลือดสูง ภาวะเบาหวานสี่ยงทําให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้  รวมถึงภาวะที่เครียดก็มีส่วนทําให้เกิดการอักเสบหรือเกิดฮอร์โมนที่ความเครียดเกิดขึ้นในร่างกาย สิ่งเหล่ามีผลต่อหลอดเลือด ดังนั้นการออกกําลังกายก็เป็นแนวทางในการป้องกันได้ อย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ อันนี้จึงจะเกิดประโยชน์ที่จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้

คนไข้ที่เป็น "สโตรก" พบ 50% มีโรคประจําตัว

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ในคนไข้ที่เป็น "สโตรก" ประมาณ 50% มีโรคประจําตัว คือ เป็นเบาหวาน เป็นความดันเพราะฉะนั้นคนคนไข้กลุ่มนี้ ต้องรักษาและคุมระดับน้ำตาลในเลือด กินยาต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพราะโรคนี้เป็นภัยเงียบ นอกจากนี้คือ คนไข้ที่เป็น "สโตรก" อีกประมาณ 50% คือไม่มีโรคประจําตัว อาจเนื่องจากไม่เคยตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจสุขภาพพื้นฐานเลย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ มีการตวรจคัดกรองผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ในชุมชนอยู่แล้ว โดยให้ รพ.สต.และ รพ. ออกคัดกรองเชิงรุกไปยังชุมชน เอาประชาชนในพื้นที่มาตรวจคัดกรองโรคพื้นฐานให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นประชาชนควรไปตรวจคัดกรอง อย่างน้อยหากมีความผิดปกติจะได้รับการรักษาได้เร็วมากขึ้น

"นั่นหมายความว่าทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน เป็นความดัน แต่ก็มีโอกาสที่จะเป็นได้" นพ.พิณพาทย์ กล่าว

นพ.พิณพาทย์ กล่าวต่อว่า โรคหลอดเลือดสมอง แบ่งกลุ่มเป็นรุนแรงและไม่รุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองชนิดที่แตก กลุ่มนี้คือเสียชีวิตประมาณ 5% อีก 70% ส่วนใหญ่ พิการ แต่ถ้าคนไข้มารับการรักษาเร็วภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที จะช่วยรักษาทันท่วงที แล้วก็ทําให้ตัวโรคฟื้นตัวได้ดีขึ้น ก็จะลดการเสียชีวิต ลดความพิการได้ดีขึ้น 

ในขณะเดียวกัน พบว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 30% เท่านั้นที่มาทันเวลา (ภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที) ส่วนที่เหลือจะมาเกินเวลาหมดเลย แต่ว่าบางรายก็โชคดีคือเป็นอาการที่ไม่รุนแรง อาจจะเป็นแค่หลอดเลือดเล็กๆ บางคนอาจจะมาแค่พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว อาการเหล่านี้จะใช้เวลาฟื้นตัวไม่นาน แต่ในกลุ่มคนไข้อาการหนัก อย่างของรพ.ชื่นชม มีประมาณ 50 รายที่ป่วยเป็น "สโตรก" คิดเป็นประมาณ 180 รายต่อแสนประชากร มีผู้ป่วยเสียชีวิตประมาณ 2-3 ราย ดังนั้นคิดเป็น 5% ของผู้ป่วยที่เป็น "สโตรก"  

"ดังนั้นการที่เราได้ทำเพลงและขับร้องหมอลำขึ้นมา ก็เพื่ออยากให้ประชาชนรู้จัก “โรคหลอดเลือดสมอง” รู้จักอาการของโรคหลอดเลือดสมอง และถ้ามีอาการอยากให้รีบมาหาหมอและรักษาได้ทันเวลา อย่ามัวแต่สังเกตอาการกันเอง บางคนเสียเวลาเป็นวัน และเมื่อมารักษาก็ให้ยาละลายลิ่มเลือดไม่ทัน ทำให้ฟื้นตัวช้า ฉะนั้นเป้าหมายคือ อยากให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมารักษาได้ทันเวลาแค่นั้นเลย" นพ.พิณพาทย์ กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องที่เกี่ยวข้อง