ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสุขภาพจิต รายงานแผนดำเนินงาน “สมศักดิ์” ระหว่างตรวจเยี่ยมกรมฯ เผยกรอบระยะเวลา 4 ช่วง คาด ก.ค.นี้ ปรับเปลี่ยนหน้าที่โดยไม่ปรับโครงสร้าง ตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการภารกิจสุขภาพจิตและสารเสพติดร่วมระหว่างกรมจิตและกรมการแพทย์ ก่อนเสนอแนวทางบูรณาการครอบคลุมทุกมิติในเดือน ส.ค.นี้

จากกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยม กรมสุขภาพจิต ถึงการดำเนินงานต่างๆ พร้อมทั้งให้นโยบายตอนหนึ่งประเด็นการควบรวมภารกิจสุขภาพจิตและสารเสพติด ว่า ทำได้ แต่ต้องทบทวนการใช้งบประมาณให้ดี เพราะผู้ป่วยจิตเวชกว่า 5 ล้านคน และเป็นผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดถึง 40% จึงขอให้ติดตามการแก้กฎหมาย เพื่อนำเงินของกองทุนยาเสพติด มาใช้ในการบำบัดผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดนั้น

(ข่าว : "สมศักดิ์" ติดตามการดูแลผู้ป่วยจิตเวช พร้อมเผย นายกฯสั่งทำ "แผนเพิ่มบุคลากรแพทย์" แก้ปมขาดแคลน)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้  กรมสุขภาพจิต ได้นำเสนอเรื่องการควบรวมภารกิจสุขภาพจิตและสารเสพติด โดยระบุถึงหลักการและเหตุผลว่า เรื่องสารเสพติดเป็นนโยบายรัฐบาลเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ยาเสพติด 85 % เป็นยาบ้า ความรุนแรงจากยาเสพติดและจิตเวชเพิ่มขึ้น  โดย 40 % เป็นโรคจิตเวชและสารเสพติด ต้องการดูแลรักษาด้านจิตสังคมและทางกาย ระบบริการต้องครอบคุลมทุกมิติทั้งส่งเสริมป้องกัน บำบัดรักษาและฟื้นฟู และทุกพื้นที่  ต้องลดความซ้ำซ้อนเชิงนโยบาย ประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน บูรณาการทรัพยากร

โดยเป้าหมาย แบ่งเป็น

1.เชิงนโยบาย ต้องมีความเป็นเอกภาพ บูรณาการการบริหารจัดการเป็นภาพรวม ตั้งแต่ส่วนกลางจนถึงภูมิภาค

2.การจัดบริการ  ระบบบริการจิตเวชสารเสพติดเป็นหนึ่งเดียว ใช้ทรัพยากรร่วม ดูแลโรคร่วม ประหยัดงบประมาณประเทศ

3.เป้าหมายในผลลัพธ์ การเข้าถึงบริการผู้ป่วยจิตเวชและสารเสพติดเพิ่มขึ้น และได้รับการดูแลที่ดีขึ้นทุกมิติ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สังคมปลอดจากความรุนแรง  (คืนคนดีสู่สังคม)

สำหรับขั้นตอน กรอบระยะเวลาการดำเนินงานหรือไทม์ไลน์

1.เดือน ก.ค.2567  เป็นช่วงการปรับเปลี่ยนหน้าที่ภารกิจโดยไม่ปรับโครงสร้าง  อธิบดีกรมการแพทย์มอบอำนาจภารกิจด้านสารเสพติดให้อธิบดีกรมสุขภาพจิต , แต่งตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการภารกิจสุขภาพจิตและสารเสพติด กรมสุขภาพจิตและกรมการแพทย์

2.เดือน ส.ค.2567 เสนอแนวทางการบูรณาการการจัดบริการสุขภาพจิตและสารเสพติดที่ครอบคลุมทุกมิติ

3.เดือน ก.ย.2567  ปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) และเสนอคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างระบบราชการสธ.

4.ปี 2568 การปรับเปลี่ยนบทบาทภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพิ่มอธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นคณะกรรมการตามประมวลกฎหมายยาเสพติดทุกคณะ

(ข่าว : กรมสุขภาพจิต ขานรับนโยบายรัฐบาลเพิ่มหน้าที่ดูแล ‘ผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติด’)