“ชลน่าน” ร่วมงาน 82 ปีกรมการแพทย์ พร้อมเปิดอาคารนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผู้สูงอายุแบบครบวงจร ด้านอธิบดีกรมฯ เผยเดินหน้าพัฒนาการบริการประชากรกลุ่มเฉพาะ-กลุ่มเปราะบาง  เตรียมเทคโนโลยีทันสมัย ทั้งการแพทย์แม่นยำ การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์และระบบนำวิถีดูแลรักษาสุขภาพประชาชน

 

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม อาคารนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผู้สูงวัย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิด   “งานวันสถาปนากรมการแพทย์ ครบรอบ 82 ปี ”   ว่า กรมการแพทย์เป็นกรมวิชาการที่มีภารกิจในการการจัดบริการและการฝึกอบรมการแพทย์เฉพาะทางในระดับตติยภูมิและสูงกว่า เพื่อรองรับการรักษาโรคที่ยุ่งยากซับซ้อน และมีการศึกษา วิจัย พัฒนาวิชาการมาเป็นองค์ความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อนำไปสนับสนุนสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ในการยกระดับระบบบริการทางการแพทย์ของประเทศให้ได้มาตรฐานสากล  โดยมี “ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทาง” ทั้ง 15 ศูนย์ซึ่งดำเนินงานโดยโรงพยาบาลและสถาบันการแพทย์เฉพาะทางภายใต้สังกัดกรมการแพทย์ เป็นหน่วยพัฒนาบริการและวิชาการจากความเชี่ยวชาญรุ่นสู่รุ่น สืบทอดความเป็น Specialist มาถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม  ปีนี้เป็นปีที่กรมการแพทย์ครบรอบ 82 ปี  กระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะสนับสนุนทรัพยากรในด้านต่างๆเพื่อให้กรมการแพทย์ได้พัฒนาและขับเคลื่อนภารกิจด้านการแพทย์เพื่อสนับสนุนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข อันจะนำไปสู่การ ลดอัตราป่วย อัตราตาย ให้ประชาชนได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานวิชาชีพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ให้สมกับคำกล่าวที่ว่า “ 82 ปีกรมการแพทย์ เป็นเลิศวิชาการสู่งานนวัตกรรมที่สมคุณค่า”

โชว์ศักยภาพกรมการแพทย์ 82 ปี

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีการมการแพทย์ กล่าวว่า  ในปี 2567 นี้เป็นปีที่กรมการแพทย์ครบรอบ 82 ปี แต่จะยังไม่หยุดพัฒนาให้ก้าวทันสถานการณ์โรคและระบบสุขภาพให้ทันสมัยตามเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้จัดหาบริการทางการแพทย์แบบองค์รวมระดับชาติ โดยมีผลงานโดดเด่นมากมาย อาทิ การพัฒนางานดิจิทัลสุขภาพ  Smart Hospital เชื่อมกับการแพทย์ปฐมภูมิโดยเฉพาะการเข้าถึงการดูแลสุขภาพในเขตเมืองที่มีความซับซ้อน พัฒนาการให้บริการ online รูปแบบโรงพยาบาลเสมือนจริง (Virtual hospital) เพื่อเป็นต้นแบบการลดความแออัดและการรอคอย  และเพิ่มบริการสำหรับผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลที่มีอาการคงที่แล้ว สามารถพักรักษาตัวตามมาตรฐานโรงพยาบาลได้ที่บ้านแทนการนอนโรงพยาบาล (Home Ward) ได้อีกด้วย      

 

ทั้งหมดเป็นตัวอย่างการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม  รวมทั้งยังมีแผนพัฒนาอย่างครอบคลุมในประชากรกลุ่มเฉพาะและกลุ่มเปราะบาง เช่น การดูแลสุขภาพแรงงานไทยในต่างประเทศ  จัดทีมดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญ ณ ประเทศอินเดีย และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการฟื้นฟูสมรรถภาพของกลุ่มเฉพาะและกลุ่มเปราะบาง  ด้วยเทคโนโลยีทางไกลและการพัฒนาหรือจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีความทันสมัยและความจำเพาะเพื่อให้ทุกกลุ่มมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  เช่น การแพทย์แม่นยำ (precision medicine) การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์และระบบนำวิถี และ การฉายรังสีในห้องผ่าตัดหรือหุ่นยนต์ฉายรังสีศัลยกรรมเป็นต้น การดำเนินงานทั้งหมดของกรมการแพทย์มุ่งหวังให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยได้รับบริการทางการแพทย์และการรักษา ด้วยองค์ความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ทันสมัย ให้สมกับคำว่า “ทำดีที่สุดเพื่อทุกชีวิต”     

ลงนามร่วมมือจัดตั้ง “ศูนย์อาเซียนเสริมสร้างศักยภาพผู้สูงอายุฯ”     

            

นอกจากนี้ กรมการแพทย์ยังได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุขให้ทำงานร่วมกับกองการต่างประเทศ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขในการเป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศคือ  ศูนย์อาเซียนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและคุณค่าสังคมผู้สูงอายุด้วยนวัตกรรม (ASEAN Centre for Active Ageing and Innovation: ACAI) ขึ้นในประเทศไทย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของอาเซียนเข้าสู่สังคมสูงอายุ ซึ่งมีการลงนามความตกลงประเทศเจ้าบ้าน (Host Country Agreement) ระหว่างรัฐบาลไทยโดยนายแพทย์ชลน่าน  ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กับศูนย์ฯ โดยนายแพทย์สุวิทย์ วิบุลย์ผลประเสริฐ ประธานศูนย์อาเซียน โดยศูนย์ฯนี้จะมีสำนักงานตั้งอยู่ที่อาคารนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผู้สูงวัย กรมการแพทย์ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านผู้สูงอายุของภูมิภาคอาเซียนต่อไป

 

82 ปีกรมการแพทย์สู่อาคารนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผู้สูงวัย

 

“ในโอกาสครบรอบ 82 ปี กรมการแพทย์ได้มีการเปิดอาคารนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผู้สูงวัย เพื่อให้บริการผู้สูงอายุอย่างครบวงจร เน้นหลักป้องกัน ส่งเสริมการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ โดยมีการวางแผนการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุรายบุคคลเพื่อคงสมรรถนะร่างกายที่ดี เพื่อให้ผู้สูงอายุของเราได้รับการดูแลและให้คำแนะนำอย่างเหมาะสม” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว