“หมอชลน่าน” Kick off กิจกรรมเปิดเมืองอารยสถาปัตย์ เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล จังหวัดน่าน ส่งเสริมการจัดบริการสุขภาพนานาชาติ สสส.ชู “น่านโมเดล” 1 ใน 10 เมืองต้นแบบสุขภาพ ที่มีอารยสถาปัตย์เพื่อผู้สูงวัย-คนพิการ รับสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์

วันที่ 1 มี.ค. 2567 ที่ลานข่วงเมืองน่าน วัดภูมินทร์ จ.น่าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เป็นประธานเปิดงาน ทัวร์อารยสถาปัตย์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดน่าน “เปิดเมืองอารยสถาปัตย์ เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล จังหวัดน่าน” พร้อมด้วย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายกฤษณะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล จังหวัดน่าน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เทศบาลเมืองน่าน องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) และภาคีเครือข่าย เพื่อเดินหน้าสนับสนุน “น่านโมเดล” เมืองต้นแบบสุขภาพ ที่มีอารยสถาปัตย์ มีสภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับ  ผู้สูงวัย คนพิการ ตามแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน หรือ Universal Design (UD)  

ยกระดับ "น่าน" เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล

​นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ ด้วยจำนวนผู้สูงอายุกว่า 13 ล้านคน คิดเป็น 20% ของประชากรไทย และมีคนพิการมากกว่า 2.1 ล้านคน คิดเป็น 3% ของประชากรไทย กิจกรรมเปิดเมืองอารยสถาปัตย์ เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล จังหวัดน่าน ถือเป็นโครงการที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ในการส่งเสริมการจัดบริการสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub and Wellness) และระบบโลจิสติก เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นเลิศในผลิตภัณฑ์ และการบริการด้านสุขภาพการรักษาพยาบาลในภูมิภาคเอเชีย มีเป้าหมาย 4 ด้าน 

1.ขับเคลื่อนเมืองสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) 

2.ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health & Wellness Tourism) 

3.การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All) ของจังหวัดน่าน 

4.ส่งเสริมสิทธิความเสมอภาคเท่าเทียมของคนพิการรองรับสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันด้วยการสร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยว

เปิดเมืองอารยสถาปัตย์ "น่าน" อำนวยความสะดวกผู้สูงวัย-ผู้พิการ

​“นักท่องเที่ยวในกลุ่มเป้าหมายนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พักฟื้นสุขภาพ กลุ่มผู้ป่วย กลุ่มคนพิการ และกลุ่มที่ต้องการได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น สตรีมีครรภ์ เด็กเล็กต้องใช้รถเข็น ดังนั้น การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จึงจำเป็นต้องพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับกลุ่มคนพิเศษเหล่านี้ด้วย แนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน หรือ UD  จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่จะต้องทำอย่างเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวก และเพื่อความปลอดภัยของคนกลุ่มนี้” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามถึงแผนระยะยาวในการทำเมืองอารยสถาปัตย์ รมว.สธ. กล่าวว่า แผนระยะยาวที่จะดูแลเมืองอารยสถาปัตย์ จริง ๆ แล้วมีการวางแผนทั้งเฉพาะหน้า ระยะกลาง และระยะยาว จ.น่าน  จะเป็นต้นแบบของเมืองอารยสถาปัตย์ เป็นปัจจัยเสริมส่งให้น่านเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเรามีจุดแข็งเรื่องนี้อยู่ ซึ่งเมืองอารยสถาปัตย์ ไม่ใช่แค่เตรียมการดูแล แต่ต้องอำนวยความสะดวก ตามแนวคิด Universal Design : UD ให้ทุกคนเข้าถึงการใช้บริการอาคารสถานที่ต่าง ๆ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว วัดวาอาราม สถานที่ภาครัฐ สนามบิน ต้องถูกออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการใช้บริการ และถูกยอมรับในมิติสากล ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวอีกด้วย โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมด้านสุขภาพด้วย

ตั้งเป้า 13 เขตสุขภาพ ต้องมีเมืองต้นแบบ Healthy City

เมื่อถามว่า ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและ Medical Hub จ.น่าน เป็นรูปแบบใด นพ.ชลน่าน อธิบายว่า จ.น่าน ทำเรื่องของ Wellness Hub เมืองสุขภาพดีเป็นเรื่องหลัก รองลงมา คือ ความเป็นเลิศในผลิตภัณฑ์ เพราะมีพื้นที่ มีแหล่งพืชสมุนไพร สร้างผลิตภัณฑ์ในมิติสุขภาพได้ ส่วนบริการการรักษาพยาบาล ก็มีความสามารถ มีศักยภาพ ถ้าประกาศว่า เป็นเมืองสุขภาพดี มีความพร้อม บวกกับสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลาย นักท่องเที่ยวมาใช้บริการด้านสุขภาพ เปิดเป็น Service Hub ได้ แม้กระทั่งศูนย์เรียนรู้ ต่อไปน่านจะเป็นศูนย์แพทยศาสตรศึกษา การแพทย์สู่ชุมชน ส่วนหนึ่งที่สามารถสร้างเป็น Medical Hub

"ตั้งเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุขไว้ 13 เขตสุขภาพ จะต้องมีเมืองต้นแบบที่เป็น Healthy City เมืองสุขภาพดี หากเจาะลึกลงไปจะมี Wellness Center กระจายลงไปอีก เมื่อรวมกับการท่องเที่ยวจะส่งเสริมให้เป็น เมืองท่องเที่ยวปลอดภัยเชิงสุขภาพ ขณะนี้มี 31 จังหวัดสมัครเข้ามา เพื่อจะประกาศตัวเองให้ สธ.รับรองว่า เป็นท่องเที่ยวปลอดภัย ซึ่งในวันที่ 25 มี.ค.นี้ จะไปเปิด Phuket Sandbox ภูเก็ตพร้อมแล้ว ครบตามเงื่อนไขทุกอย่างที่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวปลอดภัย ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ใช้เป็นมาตรวัดตามนานาอารยประเทศ คือ ปลอดพิษสุนัขบ้า จ.น่าน ถ้าปลอดพิษสุนัขบ้า ติดต่อกัน 3 ปี สามารถยกระดับเมืองปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวได้เลย อย่างนักท่องเที่ยวมาภูเก็ต เพราะเชื่อมั่น ปลอดพิษสุนัขบ้ามา 3 ปีแล้ว" นพ.ชลน่าน กล่าว

สสส.ดัน “น่านโมเดล” 1 ใน 10 เมืองต้นแบบสุขภาพ ที่มีอารยสถาปัตย์

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า จากสถานการณ์ประชากรผู้สูงอายุไทยในปี 2565 มีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 12.69 ล้านคน คิดเป็น 19.21% ถือเป็นการเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ผู้สูงอายุจำนวนมากมีบ้านที่มีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม และไม่ปลอดภัยต่อการดำเนินชีวิต  และจากข้อมูลปี 2564 มีผู้สูงอายุ 853,390 คน ระบุว่าเคยหกล้มในบริเวณบ้าพักมากที่สุด ผู้สูงอายุ 216,078 คน ที่เคยหกล้มภายในตัวบ้าน เป็นการหกล้มในห้องน้ำมากที่สุด รองลงมาคือ ห้องนอน ระเบียงบ้าน และบันได ตามลำดับ ขณะที่ข้อมูลคนพิการ ปี 2566 มีคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการทั่วประเทศ 2.18 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย ทั้งผู้สูงอายุและคนพิการ ถือเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางในการดำเนินชีวิต จากความเสื่อมถอยของร่างกายตามวัยของผู้สูงอายุ และข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ และการเข้าถึงสถานที่สาธารณะ

“สสส. สนับสนุนให้ผู้สูงอายุและคนพิการได้ออกมาใช้ชีวิตในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างมีอิสระ สะดวก และปลอดภัย โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย สนับสนุนองค์ความรู้เรื่องการออกแบบเพื่อทุกคน ปรับปรุง พัฒนา อาคาร สถานที่ ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการและคนทั้งมวล ทั้งในหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งแหล่งท่องเที่ยว โรงแรมต่างๆ เกิดเป็นพื้นที่ต้นแบบการท่องเที่ยวอารยสถาปัตย์ใน 10 จังหวัด ซึ่ง จ.น่าน เป็น 1 ใน 10 พื้นที่ต้นแบบที่ได้ขับเคลื่อนและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกตามแนวคิด UDในสถานที่สาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว วัดภูมินทร์ และวัดสวนตาลซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งมวลได้” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว

"วัดภูมินทร์" นำแนวคิดอารยสถาปัตย์ ปรับบริเวณจุดทางลาดให้ถูกต้อง 

​นายกฤษณะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล กล่าวว่า ปี 2566 จ.น่าน มีนักท่องเที่ยว 1,570,213 คน แบ่งเป็น คนไทย 1,554,216 คน ชาวต่างชาติ 15,997 คน  สร้างรายได้ 4,415 ล้านบาทโดยเริ่ม Kick off ที่วัดภูมินทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล เพราะเป็นสถานที่สำคัญที่อยู่คู่เมืองมามากกว่า 400 ปี นำแนวคิดอารยสถาปัตย์ ปรับบริเวณจุดทางลาดให้ถูกต้องหรือแพลตฟอร์มลิฟต์สำหรับขึ้นวิหาร ชมจิตรกรรมปู่ม่านย่าม่าน ปรับปรุงทางลาดบริเวณฟุตบาทรอบวัดและทำทางลาดจุดเชื่อมต่อต่างๆ ให้ผู้ที่ใช้วีลแชร์เข้าถึงได้ สะดวก ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ตามหลักอารยสถาปัตย์ 7 ประการ คือ 

1.ความเสมอภาค ทุกคนใช้งานได้ ไม่เลือกปฏิบัติ 

2.ความยืดหยุ่น ใช้งานได้กับผู้ที่ถนัดซ้ายและขวา หรือปรับสูงต่ำได้ตามความสูงของผู้ใช้ 

3.เรียบง่ายและเข้าใจได้ดี เช่น มีภาพ คำอธิบาย สัญลักษณ์สากล สำหรับทุกกลุ่มไม่ว่าจะมีความรู้ระดับไหน อ่านหนังสือออกหรือไม่ 

4.เข้าใจง่าย มีข้อมูลคำอธิบายหรือรูปภาพประกอบการใช้ 

5.ปลอดภัยขณะใช้งานทนทาน 

6.ทุ่นแรง สะดวก 

7.มีขนาด-สถานที่ที่เหมาะสม ออกแบบคิดเผื่อสำหรับคนร่างกายใหญ่โต คนที่เคลื่อนไหวร่างกายยาก ในอนาคตจะปรับสถานที่สำคัญต่างๆ ใน จ.น่านและเตรียมขยายผลไปยัง จ.อุดรธานี จ.ระยอง จ.พิษณุโลก จ.ราชบุรี จ.กาญจนบุรี และจ.สงขลา ต่อไป