สธ. รวมพลังชาวสาธารณสุข ร่วมงานมหกรรมรวมพลคนสาธารณสุขรักษ์สุขภาพ ขับเคลื่อนก้าวท้าใจ คนไทยแข็งแรง พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรสาธารณสุขมีกิจกรรมทางกาย ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และเป็นต้นแบบสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน 

 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่สวนกีฬา กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดมหกรรมรวมพลคนสาธารณสุขรักษ์สุขภาพ ขับเคลื่อนก้าวท้าใจ คนไทยแข็งแรง พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพ โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ร่วมงาน 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงาน นพ.ชลน่าน ยังได้ทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยการปั่นจักรยาน โดยมีพญ.นวลสกุล บำรุงพงษ์  ภรรยา และคณะทำงานขับเคลื่อนงานสาธารณสุข นั่งซ้อนท้ายโชว์ความหวานเนื่องในวันวาเลนไทน์ 

 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปัจจุบันวิถีชีวิตคนไทยเปลี่ยนเป็นการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ส่งผลให้การดูแลและใส่ใจสุขภาพของตนเองลดน้อยลง รวมถึงยังมีการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมและขาดการออกกำลังกาย โดยผลสำรวจการมีกิจกรรมทางกาย ในปี 2565 พบคนไทยเพียงร้อยละ 62 ที่มีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอ เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรค NCDs ตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดและหัวใจ ซึ่งแต่ละปีมีคนไทยเสียชีวิตประมาณ 3-4 แสนราย ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร กระทรวงสาธารณสุข จึงมอบให้กรมอนามัยเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมการออกกำลังกายระดับชาติ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อรองรับสังคมดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มก้าวท้าใจซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับประเทศ เริ่มที่บุคลากรกระทรวงสาธารณสุข จากการจัดมหกรรมรวมพลคนสาธารณสุขรักษ์สุขภาพ และก้าวท้าใจคนไทยแข็งแรง พิชิต 100 วัน 100 แต้มสุขภาพในครั้งนี้ และเป็นต้นแบบให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดและศูนย์อนามัยนำไปจัดกิจกรรมฯ โดย 1,000 คนแรก ที่สะสมครบ 100 แต้มสุขภาพ จะได้รับเสื้อก้าวท้าใจ และสามารถนำแต้มสุขภาพที่สะสมไว้ไปแลกของรางวัลต่างๆ ได้อีกด้วย

 

“การส่งเสริมให้บุคลากรสาธารณสุขมีกิจกรรมทางกายและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีแล้ว ยังสามารถเป็นต้นแบบให้กับประชาชนในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพ หันมามีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ และลดพฤติกรรมเนือยนิ่งอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ในอนาคต และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคของประเทศได้อีกทางหนึ่ง” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.โอภาส กล่าวว่า การดำเนินงานก้าวท้าใจที่ผ่านมาทุกครั้งได้รับการตอบรับอย่างดี มีบุคลากรจากภาครัฐ ภาคเอกชน บุคลากรสาธารณสุข นักเรียน ครู และประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเป็นจำนวนมาก สำหรับกิจกรรมก้าวท้าใจปี 2567 กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าหมายเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มเป็น 7.2 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกในแพลตฟอร์มรวมกว่า 5.3 ล้านคน มีการเผาผลาญพลังงานมากกว่า 3,647 ล้านกิโลแคลอรี ลดน้ำหนักได้ 521,000 กิโลกรัม ระยะทางสะสมกว่า 43 ล้านกิโลเมตร หรือคิดเป็นระยะทางรอบโลก 1,077 รอบ และมีแต้มสุขภาพสะสมแล้วมากกว่า 69 ล้านแต้ม 

 

ด้าน พญ.อัจฉรา กล่าวว่า ประชาชนควรออกกำลังกายวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ซึ่งประโยชน์ของการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่งหรือเดินเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นการทำงานระบบไหลเวียนโลหิต ฝึกการใช้งานกล้ามเนื้อ ทำให้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น เผาผลาญไขมัน ลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยควบคุมน้ำหนักตัว สามารถป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน อีกทั้งยังช่วยให้การทำงานของปอดและหัวใจแข็งแรง ถือเป็นเกราะป้องกันโรคอย่างดี โดยประชาชนที่สนใจร่วมออกกำลังกายและสะสมแต้มในกิจกรรมก้าวท้าใจ สามารถสมัครลงทะเบียนได้ที่ Line Official Account ก้าวท้าใจ โดยพิมพ์ค้นหา @thnvr หรือสอบถามได้ที่ Facebook ก้าวท้าใจ