ชมรมนักวิชาการสาธารณสุขฯ เผยล่าสุดผอ.รพ.สต.บางหลวง พาจนท.ถูกผู้ป่วยทำร้ายแจ้งความแล้ว  ด้านชมรมฯ ขอ สธ. เข้มความปลอดภัยบุคลากรฯ  ยกเลิก “หมออนามัยอยู่เวรยาม”  เหมือนกรณีครูเวร เว้นแต่เวรรักษาให้จัดเป็นคู่ แต่ไม่ควรเป็นหญิงทั้งหมด ย้ำ! ข่าวปัญหาความปลอดภัยของ จนท.รพ.สต. มีทุกปี

 

ตามที่มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพกตำบล(รพ.สต.) บางหลวง จ.ปทุมธานี ถูกทำร้ายร่างกายจากผู้ป่วย และได้มีการโพสต์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเตือนหมออนามัย ระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เวลา 11.10 น. มีแม่พาลูกมาฉีดยา โดยใช้สัญลักษณ์ แล้วเดินบอกผมด้านในว่า คุณหมอรบกวนฉีดยาดังกล่าวให้หน่อย คนไข้ไม่ยอมฉีดที่ รพ. เลยพามา รพ.สต. จะคุ้นเคยกว่า ปรากฎว่าถูกทำร้าย อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ผอ.รพ.สต.ได้พาเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายริซกี สาร๊ะ เลขาธิการชมรมนักวิชาการสาธารณสุข(ประเทศไทย) กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่าทางผอ.รพ.สต.ได้พาเจ้าหน้าที่แจ้งความแล้ว และทางกระทรวงสาธารณสุข รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.) เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจบุคลากรแล้ว ซึ่งเข้าใจว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นเราต้องมาทบทวนและหามาตรการเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งทางกระทรวงฯ มีการดำเนินการ อย่างที่ผ่านมามีเรื่องการจัดเวรคู่ การปรับสภาพแวดล้อมปลอดภัย มีไฟสว่างทั่วถึง กล้องวงจรปิด เป็นต้น แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัดอาจยังต้องค่อยๆทำไปเรื่อยๆ เรื่องนี้จึงอยากให้เร่งรัด เพราะเจ้าหน้าที่สาธารณสุข นักวิชาการสาธารณสุข นักสาธารณสุข หรือที่เรียกกันในพื้นที่ว่า หมออนามัย ทำงานตลอดอยู่ใกล้ชิดประชาชน อาจกระทบขวัญกำลังใจได้

“อย่างเรื่องการให้อยู่เวรทั่วไป อยากขอให้ทางผู้บริหารสธ.พิจารณา ออกประกาศยกเลิกเวรยาม เหมือนครูเวร ที่ไม่มีแล้ว แต่กรณีเวรรักษายังต้องมี ก็ขอให้เป็นคู่ แต่หากรพ.สต.นั้นเป็นสุภาพสตรีทั้งหมดก็ขอให้เว้น หรือจัดเวรให้เหมาะสม ให้ปลอดภัยที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเราจะเห็นข่าวความรุนแรงเกิดขึ้นกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอยู่เสมอ มีข่าวทุกปี อย่างเรื่องการจัดเวรยาม ขอให้เป็นทางชุมชนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มาช่วยจะดีกว่า” นายริซกี กล่าว