“ชลน่าน” ปล่อยขบวนรถขนย้ายยาเสพติดของกลาง ตามปฏิบัติการ  Set Zero เดินหน้ากำจัดให้สิ้นยาเสพติด รวม 340  ตัน เตรียมเผาทำลายพรุ่งนี้(26 ธ.ค.) ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ

 

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม  ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เป็นประธานพิธีปล่อยขบวนรถขนย้ายยาเสพติดของกลาง ในการเผาทำลายเผายาเสพติดของกลางครั้งที่ 57

 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายในการลดและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ความสำคัญทั้งการปราบปรามยาเสพติด และการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ด้วยหลักการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ซึ่งในส่วนของการปราบปรามยาเสพติดนั้น ปัจจุบันเมื่อพิสูจน์ของกลางได้ว่าเป็นสารเสพติด สามารถเผาทำลายได้โดยไม่ต้องรอสิ้นสุดคดี ประกอบกับที่ผ่านมามีการเก็บยาเสพติดของกลางในคลังจำนวนมาก สธ.และ ยธ.จึงประสานหารือในการเผาทำลายยาเสพติด ล็อตใหญ่ เพื่อ Set Zero ยาเสพติดของกลางทั้งหมด 340 ตัน จากกว่า 8 แสนคดี โดยมีการตั้งคณะทำงานเผาทำลายยาเสพติด ทั้งด้านตรวจรับ ด้านขนย้าย ด้านรักษาความปลอดภัยและทำลาย และด้านประชาสัมพันธ์ โดยวันนี้คณะทำงานฯ ด้านขนย้าย ได้ดำเนินการขนย้ายยาเสพติดของกลางจาก สธ. ไปยัง บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเตรียมเผาทำลายในวันที่ 26 ธ.ค.ต่อไป

 

“การขนย้ายยาเสพติดในครั้งนี้ มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตลอดเส้นทางทั้งทางบกและทางอากาศ ทำให้มั่นใจได้ว่าเส้นทางการขนยาเสพติดปลอดภัยแน่นอน เมื่อถึงนิคมอุตสาหกรรมบางปู จะส่งมอบให้แก่คณะทำงานฯ ด้านรักษาความปลอดภัยและทำลายยาเสพติด ดำเนินการเผาทำลายต่อไป โดยจะใช้ระบบเตาเผาอุณหภูมิสูง 1,800 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดการสลายตัวของโมเลกุลกลายเป็นคาร์บอนในระยะเวลาอันรวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่านกล่าวว่า การเผายาเสพติด 340 ตัน จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการเผาต่อเนื่อง ใช้งบในการเผารวมบริหารจัดการราว 9 ล้านบาท ซึ่งใช้งบประมาณจากกองทุน โดยรอบนี้เป็นการขนยาสพติดของกลาง 110 ตันก่อน เป็นของ อย. 60 ตัน แล้วไปรวมกับของ บช.ปส. และ ป.ป.ส. อีก 50 ตัน ทั้งนี้ หลังเผาทั้ง 340 ตันแล้ว จะเป็นการเซ็ตซีโร่คลัง เพราะก่อนหน้านี้ต้องรอพิสูจน์คดี 3 ศาล ใช้เวลานาน ทำให้ที่ผ่านมาต้องเก็บไว้จำนวนมาก และกระจายหลายที่ จากนี้เชื่อว่าคลังเก็บยาเสพติด อย.จะเพียงพอรองรับ หากมียาเสพติดของกลางใหม่ ก็ไม่ต้องรอสิ้นสุดคดี แค่พิสูจน์ว่าเป็นยาสะคิดก็นำมาก็บและทำลายได้ ตั้งเป้าจะเผาทุกเดือนต่อไป ซึ่งปีงบ 2567 จะใช้งบบูรณาการรวมในการเผาทำลาย

 

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ส่วนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด เราคาดว่ามีประมาณ 1,540,000 คน เป็นกลุ่มผู้เสพที่มีอาการหรือมีอาการติด กลุ่มนี้มีประมาณ 5 แสนคน ใช้บำบัดรักษาที่สถานพยาบาล ยิ่งมีความรุนแรงต่อสังคม ต้องใช้จิตแพทย์ร่วมดูแล ที่หลืออีก 1 ล้านคนไม่มีอาการ เหมือนคนทั่วไป ใช้ชุมชนเป็นฐานในการบำบัด เพราะถ้าเอาไปเข้าค่ายสมัยก่อน 2 สัปดาห์ กลับมาสู่ชุมชนก็เสพเหมือนเดิม ภาพนี้จะไม่เกิดขึ้น เราจะร่วมมือกันทั้งหมด โดยพรุ่งนี้นายกจะให้นโยบายในเชิงปฏิบัติ 5 เสือระดับประเทศ 5 เสือระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าการทหาร ตำรวจ นายกอบจ.ที่เป็นตัวแทนท้องถิ่น และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเข้ามาฟังนโยบายและเข้าสู่การปฏิบัติ จะกระจายทุกจังหวัดทุกอำเภอทุกตำบลทุกหมู่บ้าน

 

"วิธีการแบบนี้มั่นใจว่า 1 ล้านคน ถ้าสามารถตัดออกจากวงจรลูกค้ารายย่อย รวมทั้ง 5 แสนคนเข้าสู่การบำบัดที่เป็นวิธีการบำบัดตามมาตรฐาน คนเหล่านี้จะถือเป็นสมัครใจเข้ารับการบำบัดตามกระบวนการขั้นตอน มีหนังสือรับรองจากผู้อำนวยการสถานบำบัดนั้น จะได้รับการยกเว้นไม่ดำเนินคดี โดย สธ.ทำมินิธัญญารักษ์ครบทุกจังหวัด ดูแลด้วย" นพ.ชลน่านกล่าว

สำหรับการเผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งที่ 57 มีน้ำหนักรวม 340 ตัน จาก 836,081 คดี โดยเป็นยาเสพติดที่เก็บรักษาไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 290 ตัน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) 30 ตัน และ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) 20 ตัน ในจำนวนนี้เป็น เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) มากสุดกว่า 156,399 กิโลกรัม รองลงมา ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) เฮโรอีน เอ็มดีเอ็มเอ โคคาอีน ไดเมทิลแอมเฟตามีน และยาเสพติดอื่น ๆ