‘ชลน่าน’ ย้ำถือครอง ยาบ้า ไม่เกิน 5 เม็ดเป็นผู้เสพ ต้องบำบัดจนผ่านการรับรอง ถึงเว้นโทษจำคุก

รมว.สาธารณสุข ย้ำ! ก่อนสันนิษฐานเป็น “ผู้เสพ” ต้องสืบสวนตามหลักฐานเพิ่มเติม!  ไม่ใช่แค่ถือครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดเท่านั้น ที่สำคัญ “ผู้เสพ” ต้องผ่านการบำบัดฟื้นฟูจนได้หนังสือรับรอง ถึงเว้นโทษจำคุก 6 เดือน-3ปี  ขณะที่ สธ.มีนโยบายรองรับรักษาจัด “มินิธัญญารักษ์” ทุกจังหวัดภายใน ธ.ค.นี้ ยังมีหอผู้ป่วยจิตเวชในรพช.เกือบทุกแห่ง พร้อมดันเกิด “ศูนย์ชุมชนบำบัด” ให้มากที่สุด

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่มีการเคาะจำนวนการครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า 5 เม็ดให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้เสพ ที่ต้องเข้ารับการบำบัด ซึ่งก่อนหน้านี้นั้น นพ.ชลน่าน เคยระบุไว้ว่ากำหนด 10 เม็ด ว่า ตนไม่มีความเห็นอะไร เพราะตนได้มอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือถึงปริมาณที่เหมาะสมที่สุด ภายใต้เหตุผลที่รองรับทุกมิติ ตนไม่ได้เป็นคนเสนอ 10 เม็ด แต่เป็นส่วนหนึ่งของกรรมการพิจารณาที่เสนอเข้ามา ตนจึงได้ยกตัวอย่างขึ้นมา ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รมว.สธ. ที่ต้องออกกฎกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม เพื่อความรอบคอบ ตนจึงให้มีการประชุมพิจารณาเรื่องนี้เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2566 มติเป็นเอกฉันท์ว่ากำหนดไว้ที่ 5 เม็ด

“ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 กำหนดว่าให้ รมว.สธ. กำหนดปริมาณสารเสพติด ประเภทที่ 1 เพื่อให้สันนิษฐานำไว้ก่อนว่าเป็นผู้เสพ นอกจากนั้น ก็ยังต้องกำหนดปริมาณสารเสพติดในประเภทที่ 2 และ 5 ด้วย อย่างการถือครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด ถ้าเกิน 5 เม็ดจะถือเป็นผู้ครอบครองเพื่อจำหน่าย หรือแม้แต่ถ้ามีพฤติกรรมการจำหน่าย ไม่ว่าจะถือกี่เม็ด ก็เท่ากับเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่าย” นพ.ชลน่านกล่าว

ย้ำ! ก่อนสันนิษฐานเป็น “ผู้เสพ” ต้องสืบสวนเพิ่มเติม ไม่ใช่แค่ถือครองไม่เกิน 5 เม็ด 

นพ.ชลน่านกล่าวว่า เมื่อสันนิษฐานว่าเป็นผู้เสพแล้ว ยังต้องสืบสวนเพิ่มเติมตามหลักฐานด้วย ซึ่งหากเป็นผู้เสพจริง สมัครใจเข้าบำบัดรักษา เราก็ต้องมาดูว่าเขาอยู่ระยะไหนที่มีตั้งแต่ ผู้ใช้ ที่จะใช้ยาเสพติดเป็นครั้งคราว ผู้เสพ ใช้บ่อยมากขึ้นมีอาการอยากใช้ยาต่อ และ ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการถอนฤทธิ์ยาในสถานพยาบาล ซึ่งกลุ่มผู้ติดยาจะใช้การบำบัดไม่น้อยกว่า 4-6 เดือน

“ผู้เสพ” ต้องผ่านการบำบัดฟื้นฟูจนได้หนังสือรับรอง ถึงเว้นโทษจำคุกได้

“การดูแลจะมีตั้งแต่ระยะแรก ไปจนถึงระยะยาวที่เรียกว่า Long Term Care ใช้เวลา 4-6 เดือน เมื่อฟื้นฟูสภาพทางกายและใจได้แล้ว ผู้อำนวยการสถานบำบัดรักษายาเสพติดจะออกหนังสือรับรองให้ว่า ผ่านการบำบัดรักษาฟื้นฟู จึงจะถือว่า ไม่มีความผิด ฉะนั้น ต้องย้ำว่าต้องมีหนังสือรับรองการบำบัดตามกระบวนการ จึงจะไม่มีความผิด” นพ.ชลน่านกล่าว

สธ.มีนโยบายรองรับผู้เสพ คือ ผู้ป่วย จัด “มินิธัญญารักษ์” ทุกจังหวัดภายใน ธ.ค.นี้  

เมื่อถามว่า สธ. พร้อมจะบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นที่น่ากังวล เพราะ สธ.มีนโยบายรองรับเรื่องนี้ชัดเจน โดยจัดตั้ง ‘มินิธัญญารักษ์’ ที่ตั้งเป้าในทุกจังหวัดภายในเดือน ธ.ค. นอกจากนั้น ยังมีหอผู้ป่วยจิตเวชในโรงพยาบาลชุมชน(รพช.) เกือบทุกแห่ง และ สธ. ก็จะผลักดันให้เกิดศูนย์ชุมชนบำบัดให้มากที่สุดด้วย ซึ่งในวันนี้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพ โดยมี สธ. เป็นกรรมการศูนย์ฯ หลายๆ หน่วยงานมาช่วยกันดูแล เพื่อเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างเส้นทางอาชีพใหม่ การใช้ธรรมะเพื่อให้ผู้ที่เคยใช้ยาเสพติดไม่กลับไปใช้ยาอีก ทั้งหมดนี้เป็นการฟื้นฟูสภาพก่อนกลับเข้าสู่สังคม

ผู้เสพยามีโทษคุก 6 เดือน-3ปี เว้นเข้าคอร์สบำบัดรักษาจนครบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่เสพยาเสพติด มีโทษจำคุก 6 เดือน – 3 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 10,000 –60,000บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ แต่หากเข้ารับการบำบัดรักษาจนครบกระบวนการ ก็จะไม่ต้องรับโทษดังกล่าว

ข่าวเกี่ยวข้อง : เตรียมประชาพิจารณ์ ร่างกฎกระทรวงฯถือครอง “ยาบ้า” ไม่เกิน 5 เม็ด เป็นผู้เสพต้องบำบัดรักษา