ปลัดกระทรวงแรงงานเผยมีคนไทยแจ้งความประสงค์ขอกลับล่าสุดกว่า 8,300 คน ขณะนี้ย้ายศูนย์ปฏิบัติการจากอิสราเอลมาอยู่เมืองดูไบวันที่ 22 ต.ค. รอพาแรงงานกลับไทย พร้อมประสานขอพักชำระหนี้ระยะหนึ่งให้กลุ่มกู้เงินไปทำงาน

 

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอล ว่า จำนวนแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีจำนวนประมาณ 2-3 หมื่นคน ซึ่งมีทั้งที่อยู่ใกล้เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น และบางส่วนอยู่ไกลออกไปแต่มีความกังวลว่าเหตุการณ์อาจจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้การเดินทางกลับไทยยากขึ้น ตอนนี้แจ้งประสงค์ขอกลับไทย 8,300 กว่าคน และคาดว่าน่าจะมีการประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศเพิ่มอีกต่อเนื่อง ซึ่งทางกระทรวงแรงงานเองก็ได้ตัดสินใจย้ายศูนย์ปฏิบัติการจากอิสราเอลไปอยู่ที่เมืองดูไบ ในวันที่ 22 ตุลาคม หลังจากนั้นจะมีการพาแรงงานออกมาอยู่ที่ดูไบ เพื่อรอกลับไทย

 

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ส่วนหลายคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเดินทางกลับมา  ตนทราบมาว่า มีแรงงานหลายคนเพิ่งเดินทางไปทำงานได้ไม่กี่เดือน บางรายไปกู้ธนาคารมาเพื่อเป็นทุนในการเดินทางไปทำงาน ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงแรงงานได้เห็นความสำคัญมาก จึงเตรียมเสนอรัฐบาลในสัปดาห์หน้า เพื่อประสานขอความร่วมมือจากธนาคารต่างๆ ให้มีการพักชำระหนี้ระยะหนึ่ง เพื่อให้แรงงานได้กลับมามีงานทำ มีรายได้ก่อนแล้วค่อยชำระหนี้

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ในภาวะสงครามเช่นนี้ หากคนไทยที่อยู่ในอิสราเอล ที่เป็นแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย หรือบางส่วนที่อยู่เกินเวลาที่กำหนดแล้ว หรืออาจเปลี่ยนนายจ้างเอง ทั้งคนที่อยู่ใกล้และไกลพื้นที่เหตุการณ์ความรุนแรง ก็สามารถเดินทางกลับไทยได้ผ่านความช่วยเหลือจากรัฐบาล สำหรับผู้ที่เดินทางซื้อตั๋วเอง ก็ให้นำหลักฐานมาเบิกค่าเดินทางจากกระทรวงแรงงานได้ ทั้งนี้รัฐบาลอิสราเอล ได้ให้คำยืนยันว่า แรงงานที่ถูกกฎหมาย แล้วต้องการกลับไปทำงานต่อก็สามารถแจ้งความจำนงได้ ซึ่งจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีก