ผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากร ชมรมต่างๆ เครือข่ายพยาบาลโรคติดเชื้อ พนักงาน-ลูกจ้าง เข้ามอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี “หมอชลน่าน” ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อแดง “เยาวเรศ ชินวัตร” สมาคมชาวเหนือแห่งประเทศไทยร่วมยินดี ด้านรมว.สาธารณสุข ประกาศยกระดับ 30 บาทพลัสเป็นของขวัญให้คนไทย ชู 13 เรื่องควิกวิน ดันบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ เล็งเขตสุขภาพนำร่อง มอบปลัดดำเนินการ

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 กันยายน ที่บริเวณชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรกระทรวงสาธารณสุข นำโดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ก่อนเข้าประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค   อีกทั้ง ยังเปิดโอกาสให้ข้าราชการกรมต่างๆในสังกัดร่วมแสดงความยินดี รวมไปถึงยังมีชมรมในกระทรวงฯ อาทิ  ชมรมเครือข่ายพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล(ICN) กลุ่มลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข 4 ภาค ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย สภาเภสัชกรรม  สหภาพลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย และยังมีตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) คลองหลวง จ.ปทุมธานี  

โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น ซึ่งยังมีกลุ่มคนสวมเสื้อแดงเข้ามาร่วมแสดดงความยินดี มอบกระเช้า ช่อดอกไม้  แก่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการรับตำแหน่งครั้งนี้   รวมไปถึงคุณเยาวเรศ ชินวัตร และนายกสมาคมชาวเหนือแห่งประเทศไทย เข้าแสดงความยินดีเช่นกัน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ว่า การยกระดับทุกมิติ ทั้งการส่งเสริมป้องกันโรค การรักษา การฟื้นฟู ทั้ง 4 มิติ ยกระดับหมดมี 13 เรื่องตามที่เคยให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ โดยทั้งหมดคาดหวังให้เป็นของขวัญแก่พี่น้องประชาชนในการดูแลสุขภาพของตนเอง  ซึ่งจะทำเป็นควิกวิน (Quick Win)  ในแต่ละกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ตนดูภาพใหญ่ก็จะเลือกควินวินที่ตอบรับระดับชาตินำมาเสนอให้เร็วที่สุด  

“สิ่งที่ยังเป็นปัญหา คือ ประชาชนเข้าถึงบริการค่อนข้างลำบาก มีความแออัด เข้าถึงยาก จะมาปรับระบบตรงนี้ ซึ่งจะต้องสร้างโครงการการบริการขึ้นมา รวมถึงระบบข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด  ข้อมูลสุขภาพที่เราจะใช้ระบบดิจิทัลเข้ามารองรับ มีศูนย์ข้อมูลกลาง สามารถเชื่อมโยงข้อมูลไปทุกสถานบริการ   สามารรถกำหนดเวลานัดหมายได้ ลดความแออัด รวมไปถึงการส่งเสริมระบบสุขภาพระบบปฐมภูมิ สร้างหมอครอบครัว ให้ทุกครอบครัวมีหมอประจำ เป็นเรื่องที่คาดหวังจะให้เกิดขึ้น” นพ.ชลน่านกล่าว 

เมื่อถามถึงข้อกำจัดของบุคลากรสาธารณสุขจะรองรับนโยบายต่างๆ ได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยอมรับว่าเรื่องบุคลการสาธารณสุขมีปัญหา เพราะเราอยู่ภายใต้เงื่อนไขการบริหารจัดการบุคคลภายใต้คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) งานของเราเป็นงานบริการ พอ ก.พ.กำจัดอัตราของข้าราชการหรือลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง ทำให้เรามีปัญหาการหาคนเข้าสู่ระบบพอสมควร ถึงแม้เราจะทดแทนด้วยการจ้างด้วยเงินนอกงบประมาณ แต่ก็เป็นลักษณะลูกจ้าง ความมั่นคงในวิชาชีพ ความมั่นใจที่จะอยู่ในระบบขาดหายไป ดังนั้นทุกอย่างต้องปรับและแก้ มั่นใจเรื่องนี้จะถือเป็นเรื่องหลัก  ตนเองเห็นเป็นเรื่องหลัก เรื่องสวัสดิภาพ สวัสดิการ สุขภาพของคนทำงาน คนให้บริการต้องมีสุขภาพดี

เมื่อถามถึงไทม์ไลน์แต่ละเรื่อง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในการนำนโยบายสู่การปฏิบัติจะมีไทม์ไลน์ในรายละเอียดอยู่แล้ว  เช่นเรื่องบุคลากร คาดหวังว่าถ้าเราเจรจาสำเร็จกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอนายกรัฐมนตรีแล้วเห็นชอบ และก.พ.ไม่มีปัญหา ข้อตกลงเราภายในปี 2568 น่าจะมีกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข  

ผู้สื่อข่าวถามกรณีการใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ จะนำร่องเป็นเขตสุขภาพก่อนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็น 1 ใน นโยบายที่เราจะประกาศเป็น Quick Win แต่เป็นการนำร่องในเขตสุขภาพที่พร้อม ซึ่งท่านปลัดได้เลือกไว้เรียบร้อยแล้ว รอประกาศ  เราจะดูความพร้อมตรงนั้น การบริการตรงนั้น ดูว่าปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นหลังจากใช้แล้วคืออะไร เราจะมาปรับแก้ก่อนที่จะขยายเต็มประเทศ

เมื่อถามอีกว่า จะเป็นบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกโรคหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า รักษาทุกที่ ทุกสิทธิที่มี ส่วนคำว่า โรคนั้นก็ต้องอยู่ในสิทธิที่ให้ จะมีการดูแลอย่างครอบคลุม

ถามอีกว่าจะข้ามสิทธิการรักษาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า   เรื่องสิทธิของแต่ละกองทุน มันมีกฎหมายแต่ละกองทุนรองรับอยู่ เพราะฉะนั้นการปรึกษาหารือ พุดคุยการจะให้บริการที่มีความคาบเกี่ยวที่ลักลั่นกันอยู่เราจะมีคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมารองรับเพื่อไปดูแนวทางการจัดบริการให้สอดคล้อง ไม่ลักลั่น สิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับควรจะเท่าเทียมกัน