รมว.ดิจิทัลเผยล็อกเป้า “จ่าสิบโท” แฮกเกอร์อ้างเจาะข้อมูลคนไทย 55 ล้าน ด้านตำรวจประสานทหารเข้าจับกุม ก่อนแจงให้ชัดหลุดจากหน่วยงานใด ส่วน “หมอพร้อม” หรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะมีแอปฯ หรือช่องทางอื่นที่มีข้อมูลประชาชนเช่นกัน
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงข่าวความคืบหน้าจับกุม! แฮกเกอร์ 9near เจาะข้อมูลคนไทย ว่า ขณะนี้พบตัวคนร้าย ล็อกเป้าแล้ว ซึ่งขอยืนยันกับประชาชนว่า รัฐบาลมีมาตรการป้องกัน และหน่วยงานไหนมีช่องโหว่ ได้มอบให้หน่วยงานไซเบอร์ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายPDPA ไปช่วยดำเนินการ พัฒนาระบบให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ขอฝากถึงคนร้าย พวกแฮกเกอร์ต่างๆ เบื้องต้นมูลเหตุจูงใจ อาจเป็นเพื่อขาย หรือเพื่อขายให้มิจฉาชีพไปหลอกลวงประชาชน หรืออาจมีข้อมูลบางส่วนแล้วไปหลอกขายคนร้ายอีกต่อ หรือจริงๆอาจต้องการสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง ตรงนี้ยังไม่มีข้อมูลต้องติดตามต่อไป แต่ขอยืนยันว่า เมื่อมีการเจาะข้อมูล เจ้าหน้าที่ของเราสืบสวนจับได้แน่นอน หากอยู่ในแผ่นดินไทย เราจับได้แน่นอน
ทำหนังสือแจ้งต้นสังกัดจับ “จ่าสิบโท” ติดต่อไม่ได้ ปิดโทรศัพท์หนี
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ซึ่งก็ได้สืบสวนข้อมูลตั้งแต่วันนั้น จนรู้ตัวคนร้าย และออกหมายจับคนร้ายได้วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา โดยข้อหาเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในลักษณะเกิดความตื่นตระหนกในประชาชนตามมาตรา 14(2) หลังวันที่ 2 เมษายนก็ได้ติดตามจับกุม คนร้ายก็ปิดโทรศัพท์หลบหนี ซึ่ง ณ วันนี้ ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับ เดิมคิดว่าเป็นบุคคลธรรมดา แต่ตรวจสอบภายหลังเป็น จ่าสิบโท ส่วนภารกิจของหน่วยงานเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเลย จึงเชื่อว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล อาจต้องการแสดงเจตนาว่า ตนเองทำได้ ซึ่งเดิมครั้งแรกเหมือนต้องการขายข้อมูล ครั้งที่สองเหมือนเชิงข่มขู่ แต่ครั้งที่สามเมื่อเป็นเจ้าหน้าที่รัฐรวมตัวกันกลับบอกว่า จะเปิดเผยสปอนเซอร์การเมืองที่หลอกลวงเขา ซึ่งเจตนาเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้น ต้องจับตัวเขาให้ได้ก่อน
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำหนังสือไปยังต้นสังกัด ถามว่า ยังรับราชการหรือไม่ หากรับราชการขอให้ส่งตัวมาให้เราสอบสวนต่อ ส่วนแฟนที่เป็นพยาบาลก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน ” พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าว
ข้อมูลที่หลุดเป็น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ซึ่งมาได้จากหลายแหล่ง
พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวว่า เรื่องนี้ติดตามมาตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม และตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่สัมพันธ์กับข้อมูลประชาชน ส่วนมาจากระบบไหนนั้น ขอให้ได้ตัวคนดำเนินการก่อน จึงจะคอนเฟิร์มได้ แต่ไม่ใช่เราไม่ทำอะไร เรายังทำต่อเนื่องในเรื่องตรวจสอบระบบต่างๆ เพียงแต่เราขอความชัดเจนก่อน ดังนั้น หากได้ผู้ต้องหาจะมีความชัดเจนมากขึ้น
“ข้อมูลที่นำมาเปิดเผย เป็นข้อมูลทั่วไป คือ เป็นชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร แต่ลักษณะข้อมูลดังกล่าวเก็บได้หลายแหล่ง จึงต้องตรวจสอบก่อน หากจะให้ข้อสงสัยมาเป็นข้อเท็จจริง เกรงว่าจะทำให้เกิดความสับสนและไม่ตรงกับความจริง ดังนั้น ขอให้รอจับผู้ต้องหาและแจ้งอีกครั้ง ส่วนจะเป็น 55 ล้านรายชื่อหรือไม่ ก็ยังบอกไม่ได้”
ใครเอาข้อมูลคนไทยไปใช้ผิด PDPA
นายชัยวุฒิ กล่าวเพิ่มว่า ข้อมูลหลุดมาแล้ว แต่จำนวนจะเท่าไหร่ยังไม่ทราบว่า ถึง 55 ล้านรายชื่อหรือไม่ แต่คนที่เอาไปมีความผิด ฟ้องร้องดำเนินคดีได้ เพราะมีกฎหมายPDPA แม้จะมีข้อมูลรั่ว แต่ผลกระทบประชาชนจะน้อยลง เพราะมีกฎหมายอยู่ ส่วนจะสืบหาว่าหลุดจากไหนต้องรอก่อน
ยังไม่สรุปหลุดจาก “หมอพร้อม”
“ที่พูดกันมากว่า มาจากระบบ “หมอพร้อม” หรือไม่นั่น ก็เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีข้อมูลเยอะ แต่เราต้องให้ความเป็นธรรมกับหมอพร้อม เพราะยังไม่ได้จับตัวคนร้ายมาถามข้อมูลชัดๆว่า อาจมาจากข้อมูลอื่นด้วยหรือไม่ ตอนนี้เรารู้ตัวคนร้าย แต่ยังมีกระบวนการตามกฎหมายอยู่ในการดึงตัวมา ส่วนว่าต้นเหตุดึงมาจากไหน เราทำอยู่แล้ว การจะไปจับเขา เขาเป็นทหารก็จะมีกระบวนการ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางทหารประสานกัน ไม่เหมือนบุคคลทั่วไป เราก็เข้าไปจับได้เลย” นายชัยวุฒิ กล่าว
ข่าวเกี่ยวข้อง
- รมว.ดิจิทัล ชี้แฮกเกอร์เจาะข้อมูลคนไทย 55 ล้านคน ยังไม่พบหน่วยงานใด ไม่ยัน สธ.หรือหมอพร้อม
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 784 views