ข่าวปลอม! ใช้เล็บนิ้วหัวแม่มือจิกตรงร่องระหว่างปากและใต้จมูก ช่วยอาการวูบ  

จากข้อมูลออนไลน์แนะนำให้ ใช้เล็บนิ้วหัวแม่มือจิกตรงร่องระหว่างปากและใต้จมูก ช่วยอาการวูบ หมดสติ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ 

กรณีสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลว่า การใช้นิ้วหัวแม่มือจิกร่องระหว่างปากและใต้จมูก สามารถช่วยคนที่วูบหมดสติ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า เป็นข้อมูลเท็จและอาจเป็นอันตรายได้ ซึ่งอาการวูบ ไม่ได้สติ อาจจะเป็นอาการของคนเป็นลม หรือเป็นอาการของโรคลมชักแบบเหม่อนิ่งก็ได้

หากเป็นอาการวูบ สาเหตุอาจเกิดจากการเป็นลมทั่วไป จากภาวะหัวใจทำงานผิดปกติ ภาวะขาดออกซิเจน หรือภาวะสูญเสียน้ำ การช่วยเหลือเบื้องต้นให้ตรวจยืนยันว่าผู้ป่วยไม่ได้สติจริง ด้วยการเขย่าตัวพร้อมสอบถามอาการ พยายามพาผู้ป่วยให้อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท ปลดหรือคลายเสื้อผ้าออก จัดให้นอนราบเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปทั่วร่างกายได้ง่ายขึ้น ไม่ควรตบ ตี จิก หรือกระทำความรุนแรงกับร่างกายของผู้ที่มีอาการ ระหว่างนี้ ควรตรวจสอบว่าผู้ป่วยยังหายใจปกติ คลำชีพจรว่ายังเต้นปกติหรือไม่ อาการทั้งหมดเกิดจากการเป็นลม เมื่อให้การช่วยเหลือตามคำแนะนำแล้ว ผู้ป่วยก็จะตื่นได้เองในเวลาอันรวดเร็ว การช่วยด้วยการเอาเล็บนิ้วหัวแม่มือจิกตรงร่องระหว่างปากและใต้จมูก แล้วผู้ป่วยฟื้นคืนสติ อาจจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้ป่วยฟื้นคืนสติได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่ควรทำเพราะอาจจะเพิ่มอันตรายและการบาดเจ็บต่อผู้ป่วยได้ 

ส่วนอาการจากโรคลมชัก ผู้ป่วยอาจจะนิ่งเหม่อ ไม่พูด ไม่ตอบ บางรายอาจจะมีอาการเคี้ยวปาก ขยำมือ หรือมีอาการตัวเกร็ง แขนขาเกร็ง หรือหากรุนแรงขึ้นก็จะมีอาการเกร็งกระตุกทั้งตัว ไม่จำเป็นต้องให้การช่วยเหลือเพื่อหยุดอาการ เพราะอาการชักจะหยุดได้เอง แค่ดูแลให้ปลอดภัยจนกว่าผู้ป่วยจะรู้สึกตัว 

แต่ถ้าผู้ป่วยที่มีอาการชักเกร็งกระตุกทั้งตัว ยังอาจเป็น  “โรคลมชัก” หรือ “โรคลมบ้าหมู” ได้ โดยโรคลมชักจะเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง ความผิดปกติที่เกิดขึ้นต่อเนื้อสมองสามารถทำให้เกิดอาการชักได้ ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิดหรือโดยพันธุกรรม ทั้งเนื้อสมองเจริญเติบโตผิดปกติ สารเคมีในสมองผิดปกติ พันธุกรรมผิดปกติ หรือเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในภายหลัง เช่น ความผิดปกติต่อสมองระหว่างตั้งครรภ์ ความผิดปกติต่อสมองระหว่างคลอด อุบัติเหตุทางศีรษะ การติดเชื้อในสมอง โรคหลอดเลือดสมอง สำหรับอาการชักมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้นกับตำแหน่งของเนื้อสมองที่ผิดปกติ อาจเหม่อนิ่ง กระพริบตาถี่ ๆ เป็นระยะเวลาสั้น ๆ บางคนมีอาการเคี้ยวปาก แลบลิ้น ทำปากขมุบขมิบ ขยำมือ ตาเหลือก คอบิด แขนหรือขาเกร็งหรือกระตุกซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย บางครั้งอาจจะมีเสียงพูด แปลก ๆ มีอาการตัวอ่อนล้มลงไป มีอาการใจสั่น และมีอาการขนลุก แต่อาการทุกรูปแบบของลมชัก เกินกว่าร้อยละ 90 จะหยุดเองได้ในระยะเวลาไม่เกิน 5 นาที เมื่อพบผู้ป่วยจึงควรช่วยเหลือด้วยการให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ไม่งัด ไม่ง้าง ไม่ถ่าง ไม่กด ไม่ทั้งหมด ชักหยุดเอง แค่ดูแลให้ชักอย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยไม่หายใจหรือชีพจรหยุดเต้น ควรร้องขอให้คนช่วย เริ่มทำการช่วยฟื้นคืนชีพ ด้วยการกดหน้าอก หรือผู้ป่วยมีอาการชักนานเกินกว่า 5 นาที ได้รับบาดเจ็บจากอาการชัก ให้โทรแจ้ง 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org