ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แจงความคืบหน้าการสื่อสารค่าเสี่ยงภัยโควิด หลังปมเข้าใจคลาดเคลื่อน ย้ำ! งบของบุคลากรสายสนับสนุนยังขาดอีก 6 เดือน แต่เงินไม่เพียงพอ เตรียมทำเรื่องของบประมาณเพิ่มไปยังกระทรวงสาธารณสุขอีกราว 20 กว่าล้านบาท โดยทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทั้งหมด ขณะที่จนท.ที่ออกมาเรียกร้องไม่ได้ทำโทษ มีการสื่อสารทำความเข้าใจ ส่วนบางส่วนไม่ได้จ้างต่อ เหตุเป็นการจ้างตามภารกิจ
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขปัญหาการจ่ายค่าเสี่ยงภัยกรณีโรคโควิด 19 หลังจากมีผู้ร้องเรียนว่ามีการแบ่งแยกวิชาชีพ โดยจ่ายให้แพทย์ พยาบาล 7 เดือน ส่วนสายสนับสนุนจ่ายให้แค่ 1 เดือน ซึ่งต่อมากระทรวงสาธารณสุขให้ข้อมูล ว่า มีการใช้งบประมาณ 2 ก้อนที่มีระเบียบการจ่ายแตกต่างกัน คืองบเงินกู้จ่ายให้กลุ่มวิชาชีพ กับงบประมาณกลางจ่ายให้สายสนับสนุน ว่า เรื่องนี้ก็เป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการชี้แจง
“โดยในส่วนของสายสนับสนุนที่ต้องใช้งบจากงบประมาณกลางนั้นจ่ายไปแล้ว 1 เดือน ยังเหลือ 6 เดือน แต่เงินไม่เพียงพอขณะนี้ได้ทำเรื่องของบฯ เพิ่มเติมไปยังกระทรวงสาธารณสุขแล้วประมาณ 20 กว่าล้านบาท” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวลือว่าทางโรงพยาบาลมีการลงโทษผู้ที่ออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชน นพ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของบุคลากรที่ไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เราได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันว่าในเรื่องต่างๆ แล้ว ซึ่งกรณีที่อาจจะยังมีปัญหา หรือมีข้อเรียกร้องอะไร ก็จะมีระเบียบปฏิบัติ มีขั้นตอนอยู่ รวมถึงเรื่องของการสื่อสารสาธารณะ เรื่องนี้เป็นการพูดคุยทำความเข้าใจกันมากกว่าไม่ได้เป็นการลงโทษอะไร
เมื่อถามว่ามีบุคลากรบางส่วนที่ออกมาเรียกร้องและมีการข่าวลือไม่มีการจ้างงานต่อ นพ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า กรณีบางคนที่ไม่ได้จ้างต่อนั้น จะเป็นส่วนการจ้างรายคาบ หรือรายวัน ซึ่งส่วนใหญ่เราจ้างมาเพื่อทำงานช่วงโควิดที่มีภารกิจมาก ดังนั้น เมื่อโควิดไม่ได้ระบาดเหมือนก่อน ก็จะค่อยๆลดภารกิจตรงนี้ลง อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดในเย็นวันนี้(22 พ.ย.) ตนได้มีการสื่อสารทำความเข้าใจกับบุคลากรในรพ.วิชระภูเก็ตอีกครั้ง และจะมีการเผยแพร่ผ่านเพจ รพ.อีกทางหนึ่ง เพื่อให้การสื่อสารเข้าใจตรงกัน
อ่านต่อ : ผู้บริหาร สธ.เคลียร์เงินค่าเสี่ยงภัยโควิด หากพื้นที่ไหนไม่พอ ทำเรื่องส่งส่วนกลางขอเพิ่มเติม!
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 946 views