กรมบัญชีกลาง ออกประกาศข้อกำหนดอัตราค่ายาผู้ป่วยนอกรักษาโรคโควิด-19  ให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลสำหรับตนเองและบุคคลในครอบครัว โดยสามารถเบิกค่ายา "ฟาวิพิราเวียร์ - โมลนูพิราเวียร์"    

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง เผยแพร่หนังสือข้อกำหนดอัตราค่ายาประเภทผู้ป่วยนอกกรณีรักษาโรคโควิด 19  ในสถานพยาบาลของทางราชการ  ลงนามโดย น.ส.วิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีฯ ปฏิบัติราชการแทน รมว.คลัง ลงนามในหนังสือด่วนที่สุดที่ กค 0416.4/ว 1095  เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ส่งถึงปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด เลขาธิการ อธิการบดี ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการสถานพยาบาลของทางราชการ  เรื่อง “กำหนดอัตราค่ายาประเภทผู้ป่วยนอกกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของราชการ”  ทั้งนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมานั้น

โดยเนื้อหาสาระระบุถึง กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งให้กรมบัญชีกลาง เตรียมพร้อมในการบริหารจัดการค่ายาต้านไวรัสรักษาโควิด19 ซึ่งเดิมกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้จัดหายาต้านไวรัส และสนับสนุนยาให้กับสถานพยาบาลของทางราชการทั่วประเทศ เป็นให้สถานพยาบาลของทางราชการ เป็นผุ้จัดหายาต้านไวรัสตามระบบปกติ และการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่แต่ละหน่วยงานเป็นผู้กำหนด

 
โดยปัจจุบันมีสถานพยาบาลของทางราชการที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบเบิกจ่ายตรงให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิดที่มีอาการเล็กน้อย แต่ไม่สามารถส่งเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ จึงมีความจำเป็นต้องเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วย กรมบัญชีกลางได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงเห็นสมควรกำหนดอัตราค่ายาบางประเภท กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก และผ่อนคลายวิธีปฏิบัติในการเบิกค่ารักษาพยาบาล 

ภาพจากองค์การเภสัชกรรม

 

ดังนั้น อธิบดีกรมบัญชีกลาง โดยได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงเห็นสมควรให้ผู้มีสิทธิส่วนราชการ และสถานพยาบาลของทางราชการถือปฏิบัติ ประกอบด้วย

1.ในกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเข้ารับบริการทางการแพทย์ประเภทผู้ป่วยนอก ให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลสำหรับตนเองและบุคคลในครอบครัว ดังนี้

1.1 ค่ายา ฟาวิพิราเวียร์ และ โมลนูพิราเวียร์  ให้นำอัตราที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มาใช้บังคับกับการเบิกค่ารักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิ หรือบุคคลในครอบครัวตามพระราชกฤษฎีกาฯ สำหรับค่ายาอื่นๆ ให้เห็นตามอัตราที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องอัตราค่าบริการสาธารณสุขเพื่อใช้สำหรับการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของทางราชการ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

1.2 การเบิกค่ายาตามข้อ 1.1 มิให้นำหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเบิกค่ายานอกบัญชียาหลักแห่งชาติมาใช้บังคับ โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุข​กำหนด

1.3 สถานพยาบาลของทางราชการที่ยังคงได้รับการสนับสนุนยาจากกระทรวงสาธารณสุข  ให้งดเว้นการเบิกค่ายาในรายการที่ได้รับการสนับสนุน จนกว่ายาที่ได้รับจะหมดคลังยาของสถานพยาบาลของราชการ

2.ในกรณีที่ผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวทดรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกไปก่อน เนื่องจากสถานพยาบาลของทางราชการยังไม่เข้าสู่ระบบเบิกจ่ายตรง หรือไม่อาจใช้สิทธิในระบบเบิกจ่ายตรง เพราะข้อมูลในระบบทะเบียนประวัติไม่สมบูรณ์ ให้ยกเว้นหลักเกณฑ์ (ข้อ 5 ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด กค 0416.4/ว 805) และให้ยื่นขอใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ณ ส่วนราชการต้นสังกัดได้ โดยให้ส่วนราชการต้นสังกัดพิจารณาให้เบิกได้ตามสิทธิที่กำหนดไว้ตามหนังสือ กรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด กค 0416.4/ว 805

 

 

ทั้งนี้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมตามไฟล์แนบด้านล่าง