อย่าเชื่อ! "มดลูกต่ำ" ไม่เกี่ยวกับอาการปัสสาวะบ่อย

อาการปัสสาวะบ่อย เป็นสัญญาณถึงความเจ็บป่วยหรือโรคภัย ที่บ่งบอกถึงอาการของโรคได้หลากหลาย แต่ปัสสาวะบ่อยเป็นอาการระยะแรกของมดลูกต่ำ จริงหรือไม่นั้น กรณีนี้ นพ.ธนวรรธน์ แสงนักธรรม นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานสูติ-นรีเวชศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี ให้ข้อมูลกับ Hfocus ว่า ไม่เป็นความจริง มดลูกหย่อนหรือมดลูกต่ำนั้น ไม่เกี่ยวกับการปัสสาวะ แต่อาจเป็นเพราะกระเพาะปัสสาวะกับมดลูกเป็นอวัยวะที่อยู่ใกล้กัน โดยมดลูกจะอยู่ด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ เมื่อมีอาการร่วมกัน บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเพราะมดลูกต่ำจึงทำให้เกิดการปัสสาวะได้บ่อย ๆ แต่แท้ที่จริงแล้ว ผู้หญิงบางคนมดลูกหย่อน แต่มีอาการปัสสาวะบ่อยจากโรคอื่น

สำหรับการปัสสาวะบ่อย ๆ นั้น เกิดได้จากพฤติกรรมที่แค่ปรับ ร่างกายก็จะกลับมาปกติได้ แต่ในบางกรณีอาการปัสสาวะบ่อย ๆ ก็บ่งบอกถึงสัญญาณบางอย่างของร่างกายที่ต้องรีบไปพบแพทย์ นพ.ธนวรรธน์ กล่าวว่า ปัสสาวะบ่อยที่เจอในคนไทยมีอยู่หลายโรค บางคนเกิดจากการดื่มน้ำเยอะ เพราะมีความเชื่อว่า การดื่มน้ำจำนวนมากจะช่วยขับของเสีย ช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้ว ควรดื่มน้ำ 2-2.5 ลิตรต่อวันก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ไม่ต้องดื่ม 3-4 ลิตรต่อวัน เพราะจะมากเกินไป อีกโรคที่พบบ่อย คือ ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน เป็นภาวะที่เกิดจากพฤติกรรม ผู้ป่วยอาจเคยติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหลายครั้งจนเกิดความวิตกกังวล จนรีบปัสสาวะทันทีเมื่อปวด ทำให้กระเพาะปัสสาวะหรือร่างกายจำว่า ถ้าปวดก็ต้องปัสสาวะในทันที

นพ.ธนวรรธน์ เพิ่มเติมว่า ส่วนการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะนั้น จะพบได้บ่อยในเพศหญิง เพราะทางเดินปัสสาวะสั้นกว่าของผู้ชาย จึงติดเชื้อได้ง่ายกว่า มักจะเกิดได้กับผู้หญิงที่กลั้นปัสสาวะนาน ดื่มน้ำน้อย พอติดเชื้อแล้วกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จะส่งผลให้ปัสสาวะบ่อย แต่จะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เจ็บขณะปัสสาวะ หรือปัสสาวะแสบขัด ก็จะเป็นอาการที่จำเพาะกับอาการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะนั้น ถ้าเกิดอาการรุนแรงเฉียบพลันจะเป็นอันตรายได้ ถ้าไม่รีบรักษาอาจลุกลามจากกระเพาะปัสสาวะไปที่ท่อไต กรวยไต จนเกิดกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน มีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ซึ่งจะพบอาการ ดังนี้ เป็นไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง เคาะที่ไตแล้วสะดุ้ง ไตอักเสบ ถ้าให้ยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อไม่ทัน ค่อนข้างอันตรายถึงชีวิตได้

"โรคอื่นที่พบได้ หากมีอาการปัสสาวะบ่อย ๆ เช่น นิ่วในทางเดินปัสสาวะ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เมื่อเกิดการระคายเคือง ก็จะปัสสาวะบ่อย และปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย สำหรับผู้ชายที่เริ่มสูงอายุแล้ว อาจพบปัญหาต่อมลูกหมากโต ทำให้ปัสสาวะผิดปกติได้เช่นกัน ส่วนโรคเบาหวานก็มีอาการนำ คือ ปัสสาวะบ่อย มีน้ำตาลรั่วออกมาในปัสสาวะทำให้เข้มข้น จัดเป็นโรคเรื้อรัง ถ้าไม่ได้ตรวจรักษา เบาหวานจะทำให้เส้นประสาทเสื่อม ตามองไม่เห็น หัวใจมีปัญหา ปลายมือปลายเท้าชา รวมถึงอาการปัสสาวะไม่ออกแทน หากเป็นขั้นรุนแรงก็จะอันตรายมาก" นพ.ธนวรรธน์ กล่าว

หากเริ่มมีการปัสสาวะบ่อย ให้ลองสังเกตพฤติกรรมเสียก่อน ถ้าดื่มน้ำมากเกินไปก็ควรลดปริมาณลง ดื่มเพียง 2-2.5 ลิตรก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว และเมื่อร่างกายเริ่มส่งสัญญาณอันตราย เช่น เป็นไข้ ปัสสาวะแสบขัด หรือมีเลือดปน ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ และรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org