บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขปฏิบัติงานโควิด-19 เป็นด่านหน้าจ.น่าน ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน ด้านผอ.รพ.เตือนบุคลากรระวัง พยาบาลโดนแล้วหลายรายมีทั้งส่งข้อความหวังแฮก บางรายโอนเงินแล้ว เท่าที่ทราบสูญเงินกว่าแสน และน่าจะมีอีกเป็นล้านบาท วอนตร. เร่งช่วยเหลือ ขอช่องทางอายัดรวดเร็วไม่ติดวันหยุดเสาร์อาทิตย์

 

เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2565 นพ.กฤษ ใจวงค์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันติสุข และรักษาการ ผอ.รพ.ท่าวังผา จ.น่าน ให้สัมภาษณ์ Hfocus ว่า ขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานโควิด ซึ่งเป็นด่านหน้าทำงานตรวจคัดกรอง คลุกคลีผู้ป่วยมาตลอด กำลังได้รับผลกระทบจากการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง ด้วยการส่งลิงค์แปลกๆ หลอกให้เข้าไปคลิก และเมื่อคลิกแล้วจะไปยังหน้าเฟซบุ๊กให้เรากรอกข้อมูล จากนั้นก็จะแฮกไลน์เรา เพื่อใช้ตัวตนเราไปยืมเงินผู้อื่น ซึ่งภรรยาตนเป็นพยาบาลถูกแฮกข้อมูลไลน์ และมิจฉาชีพเอาไปหลอกเพื่อนพยาบาล โดยตนและภรรยาได้เข้าแจ้งความตั้งแต่วันเกิดเหตุ คือ วันที่ 22 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา

“ขณะนี้พยาบาลเดือดร้อนมาก พวกเขาทำงานโควิด เป็นด่านหน้า ได้รับค่าเสี่ยงภัยไม่มาก แต่สุดท้ายกลับต้องมาเจอมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปอีก โดยขณะนี้ที่มีการประสานมา มีรพ.น่าน เบื้องต้น 1-2 ราย และรพ.ปัวอีก 2 ราย โดยรพ.ปัว เป็นพยาบาลวิชาชีพถูกหลอกโอนเงินไปแล้ว38,000 บาท และอีกรายเป็นเจ้าพนักงานเวชสถิติโอนไป 2 ยอดรวม 80,000 บาท” นพ.กฤษ กล่าว

นพ.กฤษ กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะมีผู้เสียหายแค่นี้  เพราะมีคนถูกแฮกข้อมูลเยอะมาก ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในจังหวัดน่าน กลายเป็นว่าตอนนี้มิจฉาชีพหันมาเล่นงานกลุ่มบุคลากรที่ทำงานโควิดแล้ว จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามเอาผิดมิจฉาชีพกลุ่มนี้ เพื่อไม่ให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก

ด้านนางพัชรินทร์ ใจวงค์ พยาบาลวิชาชีพ รพ.ปัว กล่าวว่า ตนได้รับข้อความไลน์จากเจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.น่าน ท่านหนึ่ง ซึ่งรู้จักกัน และข้อความออกมาในลักษณะว่า  ให้คลิกลิงค์เนื่องจากมีปัญหาเรื่องคอนโดมิเนียมที่ซื้อ โดยตนเพิ่งซื้อคอนโดฯมาพอดี จึงกังวล แต่เมื่อคลิกข้อความเข้าไปให้ยืนยัน สักพักไลน์ของตนแฮงก์ ใช้ไม่ได้ จากนั้นเพื่อนๆส่งข้อความมาในเฟซบุ๊กว่าใช่เราหรือไม่ มีคนเข้ามายืมเงินในไลน์ เราก็รู้ตัวว่าถูกแฮก จึงรีบเตือน แต่ไม่ทันมีเพื่อนโอนเงินไปแล้ว โดยบัญชีการโอนก็ไม่ใช่ชื่อเรา แต่มาขอยืมบอกว่าแอปฯธนาคารใช้ไม่ได้ เมื่อใช้ได้จะรีบโอนให้ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นได้เข้าไปแจ้งความ เพื่อขออายัดบัญชีที่หลอกให้โอนเงินไปแล้ว

“ปัญหา คือ เราได้ไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอให้ทางธนาคารอายัด แต่ปรากฎว่า ธนาคารบอกว่า ทำการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และใบร้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีตราครุฑ สรุปคือ กว่าจะประสานได้ค่อนข้างหลายขั้นตอน อยากให้มีช่องทางที่รวดเร็วกว่านี้ เพื่อช่วยเหลือคนที่ถูกมิจฉาชีพหลอก ไม่ใช่แค่บุคลากรทางการแพทย์แต่ยังมีอีกมาก” นางพัชรินทร์ กล่าว

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org