การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่กระบี่ระหว่างวันที่ 15-16 พ.ย. นี้ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนองและสตูล) มีเป้าหมายในการนำเสนอการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและคุณภาพชีวิตของประชาชน หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวที่ควบคู่ไปกับเรื่องสุขภาพ
หนึ่งในนั้นคือโครงการ Phuket Health Sandbox ของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถูกนำเสนอในโครงการที่มีความเป็นเร่งด่วนและสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี เพื่อวางรากฐานระบบสุขภาพใหม่ภายใต้วิธีคิด เมืองแห่งความผูกพันระหว่างผู้คนในท้องถิ่นสู่สุขภาพของคนในโลก
ธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ที่สุดแล้วโควิดก็ต้องเปลี่ยนจาก Pandemic (การระบาดใหญ่) เป็น Epidemic (โรคระบาด) ทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ที่ผ่านมาภูเก็ตพยายามทำอะไรเยอะมาก ทั้งเรื่องวัคซีนและอื่นๆ เมื่อผ่านกระบวนการนั้นมาแล้วก็ต้องก้าวถัดไป นั่นคือการมุ่งสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ medical and wellness
“ในอดีตถ้าพูดถึง wellness ทุกคนก็จะนึกถึงแต่สปา แต่ปัจจุบันคำว่า medical และ wellness ถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวและการแพทย์โดยปริยาย ฉะนั้นทางโรงพยาบาล อบจ. เลยอยากจะทำเป็น Phuket Health Sandbox และเป็นผู้เสนอโครงการนี้ขึ้นมา”
ระบบสุขภาพใหม่ที่ว่านี้จะประกอบด้วย 3 เรื่องหลัก คือ Health care การดูแลคนในสังคมที่หมายรวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ Service care การบริการด้านสุขภาพแบบสมัยใหม่ มีเรื่องของนวัตกรรมเข้ามา และ High care สถาบันการวิจัยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและสร้างเครือข่ายในอันดามัน โดยมีเป้าหมายเป็นเมืองที่มั่นคง ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ภาคเอกชนยังเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Specialized Expo) ในปี 2571 (2028) ด้านการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เพื่อหวังปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางด้านนี้และเป็นศูนย์กลาง Medical Hub ซึ่งจะเกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจกว่า 39,000 ล้านบาทและสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันตลอดช่วงเวลาของการจัดงานกว่า 49,000 ล้านบาท
“เราอยากปักหมุดในแผนที่โลกว่า ภูเก็ตและจังหวัดอันดามันคือพื้นที่ของ medical and wellness ซึ่งปัจจุบันไทยเราเก่งหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องทันตกรรมหรือความงาม เราไม่แพ้เกาหลีเลย แถมในราคาใกล้เคียงกันที่เกาหลีอาจทำในคลีนิกห้องแถวแต่ของเราทำในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่มีต่างชาติบินมาทำเช่นกัน การรักษาโรคเฉพาะทางก็เก่ง เมื่อมีหมอเก่งๆแล้ว เราก็เอาเรื่องท่องเที่ยวกับการแพทย์มาผนวกด้วยกัน”
ธเนศ กล่าวเสริมว่า Specialized Expo เป็นแผนของ 7 ปีข้างหน้าแต่ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้ เพราะต้องขออนุมัติและถ้าครม.อนุมัติก็จะเริ่มงานในปีหน้า ซึ่งมีคู่แข่งอีก 2 ประเทศ คือ มินนิโซตา ของสหรัฐ และมาลากา จากสเปน และหากพูดถึง Specialized Expo ครั้งที่แล้ว มีคนมาร่วมงานในพื้นที่นั้นพื้นที่เดียวถึง 4 ล้านคนใน 3 เดือน ถือว่ามหาศาล จึงมีความคิดรวมจังหวัดอันดามันร่วมด้วยกัน เพราะก่อนถึงเอ็กซ์โปก็จะมีงานพรีต่างๆมากมายและหลังจัดก็มีงานตามมาอีก โดยในส่วนของศูนย์การแพทย์ที่จะเอาไปใช้ในงานเอ็กซ์โปนั้นเมื่อเสร็จแล้วจะถูกเอากลับมาทำเป็น Medical Plaza Hub ด้วย
ขณะที่นัทที อดิศราลักษณ์ ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่าในส่วนของจังหวัดกระบี่มีการนำเสนอโครงการพัฒนาแหล่งสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อน ที่อ.คลองท่อม ซึ่งมีทั้งน้ำพุร้อนเค็ม ที่มีเพียง 2 แห่งในโลกและน้ำพุร้อนอีกหลายแห่ง รวมถึงน้ำตกร้อนด้วย ซึ่งจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยการวิธีธาราบำบัด
“จริงๆ มีหลายเรื่องทั้งที่กำลังติดตามและเสนอเพิ่มเติม แต่หลักๆ ที่เพิ่มเติมคือ สปาวารี การยกระดับสนามบินนานาชาติกระบี่เป็นคาร์โก ฮับ และการเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ในกลุ่มอันดามันให้เป็น Andaman Maritime Hub หรือศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งทางทะเล รวมทั้งเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางบก ทางน้ำ ระบบรางและอากาศ (Multimodel Transportation)”
สำหรับน้ำพุร้อนเค็มที่มีอีกแห่งในโลกอยู่กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็กนั้น อยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนทำให้น้ำไม่ร้อนมากจนเกินไปอุณภูมิอยู่ที่ 40-47 องศาเซลเซียส กระจายอยู่ในบริเวณทั้งหมด 14 บ่อ สามารถบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อต่างๆ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดีและช่วยรักษาโรคบางอย่างได้
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพัฒนาศูนย์สั่งการและระบบการแพทย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามัน เพื่อพัฒนาศักยภาพการรักษาความปลอดภัยในเมืองท่องเที่ยวหลักด้วยระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การของบประมาณในการปรับปรุงอาคารบำบัดรักษา และจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ในระยะเร่งด่วน
ขณะเดียวกันมีการขอสนับสนุนเชิงนโยบาย Andaman Go Green ให้กระบี่เป็นพื้นที่นำร่องในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG Model ใช้แนวคิดพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อสร้างต้นแบบก่อนขยายผลสู่จังหวัดอื่นๆ และการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 โดยให้จังหวัดตรัง กระบี่ ภูเก็ต ในฐานะที่ได้รับประกาศให้เป็นเมืองกีฬา หรือ sport city เป็นเจ้าภาพหลัก และจังหวัดระนองเป็นเจ้าภาพร่วมใน 2 ชนิดกีฬา ได้แก่ ปีนหน้าผาและปั่นจักรยาน
ทั้งนี้ ข้อเสนอต่อครม.จะแบ่งเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปีและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ การเยียวยา ฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การท่องเที่ยว การเกษตร คุณภาพชีวิตและโครงสร้างพื้นฐาน
- 94 views