“หมอโอภาส” ย้ำเสียชีวิตจากวัคซีนโควิดพิสูจน์แล้วมี 2 รายจากฉีดสะสมกว่า 55 ล้านโดส

กรมควบคุมโรคเผยกรณีฉีดวัคซีนโควิดพบเสียชีวิตมากขึ้นไม่จริง! เหตุต้องพิจารณาข้อมูลข้อเท็จจริง การตรวจสอบชันสูตรผ่าศพ พบเกี่ยวกับวัคซีนมี 2 รายจากฉีดวัคซีนสะสมทั้งหมดกว่า 55 ล้านโดส ซึ่งประโยชน์มากกว่า ขณะที่หาก “โมเดอร์นา” เข้าไทยและมีการฉีดจะมีระบบติดตามผลข้างเคียงระดับประเทศเช่นกัน เหมือนกรณีซิโนฟาร์ม

เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ครั้งนี้มีตัวเลขเสียชีวิตมากกว่าเดิม ว่า ต้องพิจารณาจากข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งการเสียชีวิตครั้งนี้ จะขอให้มีการการผ่าชันสูตรพิสูจน์ศพทุกราย แต่พบว่าที่น่าจะเกิดจากวัคซีนจริงๆมีแค่ 2 รายเท่านั้น และหลายรายพิสูจน์แล้วว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน เมื่อเทียบกับข้อมูลทั้งหมดจากการฉีดวัคซีนสะสม 50 ล้านโดส และพบว่าเสียชีวิตจากวัคซีน 1-2 ราย ถือว่าต่ำมาก วัคซีนมีความปลอดภัยและมาตรฐาน ซึ่งการฉีดวัคซีนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอะไร มีบ้าง แต่ไม่รุนแรง และเรามีการติดตามตลอด ซึ่งหากมีอะไรผิดปกติมากก็จะมีคณะกรรมการฯ พิจารณา และมีคำวินิจฉัยออกมาว่า วัคซีนยังปลอดภัยก็ฉีดต่อไป หรือหากพบว่า วัคซีนผิดปกติในบางล็อตก็หยุดบางล็อตไปก่อน ทั้งหมดต้องฟังคณะกรรมการฯ มีระบบตรวจสอบเข้มงวด

“ขอย้ำว่า หลายรายที่บอกว่าเสียชีวิตจากวัคซีน แต่สุดท้ายพอพิสูจน์แล้วก็พบว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน ดังนั้น วัคซีนไม่มีอะไรผิดปกติ ผลข้างเคียงควรจะเกิดก็ควร เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ฉีดไปแสนกว่าคนก็พบ 4 คน ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่างสหรัฐอเมริการายงานพบ 6 ในแสนคน ก็ถือว่าปกติ ไม่ต้องหยุด และ 4 รายได้รับการดูแล หายเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อฉีดวัคซีนเยอะๆ ก็มีโอกาสเกิดได้ ในวงการวัคซีนเข้าใจกันดี ซึ่งก็ต้องเทียบประโยชน์กับผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น” นพ.โอภาส กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีการฉีดวัคซีนทางเลือก อย่างโมเดอร์นา ในอนาคตจะมีการติดตามผลข้างเคียงอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า โมเดอร์นา ยังไม่ได้เริ่มเข้ามา แต่เมื่อเข้ามาจะมีระบบติดตามตรวจสอบ ยกตัวอย่าง ซิโนฟาร์ม กระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้เป็นผู้นำเข้ามา แต่ในระบบประเทศจะมีภาพรวมเข้ามา ซึ่งซิโนฟาร์มฉีดไปแล้ว 8 ล้านกว่าโดส ส่วนวัคซีนโมเดอร์นา เมื่อนำเข้ามาแล้วก็จะมีระบบติดตามเฝ้าระวังในระดับประเทศเช่นกัน โดยเฉพาะการฉีดในสถานพยาบาลเอกชน ก็จะอยู่ในระบบสาธารณสุข จะมีกฎหมายในการติดตามตรวจสอบดูแลกำกับเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงาว่า สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. จนถึงวันที่ 3 ต.ค.2564 จำนวน 55,150,481 โดสเป็นเข็มที่ 1 ฉีดแล้ว 32,987,918 ราย และเข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 20,696,791 ราย และเข็มที่ 3 ฉีดสะสมแล้ว 1,465,772 ราย