โควิด-19 คือวิกฤติที่ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม แต่ในความพยายามหาทางออกจากวิกฤติครั้วนี้ก็ทำให้ค้นพบโอกาสต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข ซึ่งนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.) รุ่นที่ 9 สถาบันพระปกเกล้า ได้เสนอยุทธศาสตร์การจัดการสถานการณ์ COVID-19 ในหลายประเด็น
รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย ตัวแทนนักศึกษาหลักสูตร ปธพ.รุ่นที่ 9 กล่าวถึงการเสริมสร้างความมั่นคงสาธารณสุขของประเทศไทย ซึ่งจากผลการศึกษาของ ปธพ.มีข้อเสนอ 2 ประเด็น คือ 1.ปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้เกิดความมั่นคง และ 2.การสร้างความยั่งยืนในการพึ่งพาตนเอง
การปรับโครงสร้างระบบสาธารณสุขนั้น รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย เสนอว่า ควรเน้นการกระจายอำนาจ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ โดยประเทศไทยมีการแบ่งเขตสุขภาพ 12 เขต มีสาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัด แห่งสาธารณสุขอำเภอ 900 อำเภอ อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน(อสม.) 1,040,000 คนทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธาณสุข เป็นโรงพยาบาลศูนย์ 34 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป 92 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน 775 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชนกว่า 440 แห่ง ซึ่งควรพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน
"ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสังกัดต่างๆ ยังมีช่องว่างอยู่มากที่ควรพัฒนาปรับปรุง ข้อเสนอคือสร้างความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่คนละสังกัด ในขณะที่การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนหรือ อสม.มีการช่วยเหลือแต่ละครัวเรือนใกล้ชิดแบ่งเบาภาระหน่วยงานที่ดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี ข้อเสนอแนะในการปรับระบบสาธารณสุขพื้นฐาน กทม.ควรมี อส.เขต อส.กทม.ให้ครอบคลุมทุกเขต" รศ.นพ.ดิลก กล่าว
นอกจากนี้ ปธพ.รุ่นที่9 ยังมีข้อเสนอประเด็นระบบสาธารณสุขระหว่างประเทศ เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศที่พัฒนาแล้วมีองค์ความรู้ดีกว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศจึงควรจะมีทูตสาธารณสุขประจำประเทศต่างๆ เหมือนทูตประจำแต่ละประเทศเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอยุทธศาสตร์ของปธพ.รุ่นที่ 9 ได้เน้นถึงการสร้างความยั่งยืนในระยะยาวด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยรศ.นพ.ดิลกเสนอว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีมาตรการในการรักษาโรคตามมาตรฐานโลก แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการผลิตวัคซีน การนำเข้าวัคซีนจึงต้องเร็วขึ้น รัฐบาลควรทำข้อตกลง หรือ MOU ร่วมกับประเทศที่ผลิตวัคซีน เน้นการบูรณาการมีหน่วยงานสอดส่องการระบาดของตัวไวรัสตัวใหม่หรือสายพันธุ์ใหม่ พัฒนาทรัพยากรบุคคล ส่งแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ไปศึกษาศาสตร์ด้านวัคซีน และมีความร่วมมือกันในภูมิภาคอาเซียนเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองในการซื้อวัคซีน
ข้อเสนอที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งตือการพัฒนาด้านยา นำบทเรียนจากสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้ความรู้เรื่องสมุนไพรกับประชาชน ส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนสมุนไพรตั้งแต่วัยเด็กจนถึงระดับอุดมศึกษา สนับสนุนให้เป็นหลักสูตรพื้นฐานในการศึกษา ส่งเสริมวิจัยพัฒนายา ทุนวิจัยให้ความสำคัญเป็นโปรเจคระดับชาติควรนำวิกฤตโควิดสร้างโอกาสในการพัฒนา สร้างความมั่นคงยั่งยืนในการผลิตยาของประเทศให้เป็นรูปธรรมทั้งสมุนไพรและยาแผนปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ดร.ปิยพรรณ หันนาคินทร์ นักศึกษาปพธ.รุ่นที่ 9 ยังกล่าวถึงแพลตฟอร์มในการให้ข้อมูลของจิตอาสาที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือติดต่อกับผู้ป่วยโควิด ชื่อ jitarsa.care ที่ได้พัฒนาขึ้้นมาเป็นช่องทางให้ประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือกรณีได้รับเชื้อหรือเข้าสู่กระบวนการ Home.Isolation รวมทั้งระบบค้นหาข้อมูลผ่านกูเกิ้ล Map
"เป็นแพลตฟอร์มให้ผู้ติดเชื้อหรือขอความช่วยเหลือเพื่อติดต่อกับจิตอาสาของเราซึ่งมีจำนวน 10,300 คนช่วยเหลือมาแล้วกว่า1 หมื่นครอบครัว โดยมีทั้งส่วนที่ให้ข้อมูล เช่น วัด จะใช้สัญลักษณ์เป็นธรรมจักรสีเหลือง ในกรณีที่ต้องการจองวัดเผาศพก็สามารถตรวจสอบได้ว่าวัดไหนว่าง หากเมรุเผาศพเต็มสัญลักษณ์จะเปลี่ยนเป็นสีเทา นอกจากนี้ยังมีส่วนอาสาติดต่อที่ประชาชนเข้ามาขอความช่วยเหลือกับทีมงานจิตอาสา ซึ่งการลงรายละเอียดต่างๆเราได้คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล โดยยืนยันได้ว่าข้อมูลส่วนตัวจะไม่ถูกนำไปเปิดเผย" ดร.ปิยพรรณ กล่าว
- 4 views